history history
 
   
iconยุทธศาสตร์ยางพาราระยะ 20 ปี พ.ศ.2561-2580 [   กันยายน  2566 ]

 

ยางพารา พืชเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศไทย มีผู้เกี่ยวข้องที่เป็นเกษตรกร ผู้ประกอบการแรงงาน บุคลากรภาครัฐ และบุคคลที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ประมาณ 1 ล้านครอบครัว จำนวนไม่น้อยกว่า 6 ล้านคนทั่วประเทศ ก่อให้เกิดรายได้แก่ประเทศจากการส่งออกยางแปรรูปขั้นต้นปีละกว่า 200,000 ล้านบาท ไทยเป็นทั้งผู้ผลิตและผู้ส่งออกยางพาราและผลิตภัณฑ์ยางอันดับ 1 ของโลก ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2534 เป็นต้นมา โดยปี 2565 ไทยผลิตยาง  5.14 ล้านตัน ส่งออก  4.40 ล้านตัน(ร้อยละ 85 ของผลผลิตทั้งหมด) และใช้ในประเทศ 1.04 ล้านตัน(ร้อยละ 20 ของผลผลิตทั้งหมด) ไทยพึ่งพาตลาดส่งออกเป็นหลัก ได้แก่ จีน มาเลเซีย สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และยุโรป  การส่งออกส่วนใหญ่อยู่ในรูปวัตถุดิบยางแปรรูปขั้นต้น โดยปี 2565 ไทยส่งออกยางแท่งเอสทีอาร์และยางแท่งไม่ระบุชั้น 1.64 ล้านตัน  รองลงมาคือยางผสม(Compound Rubber) 1.58 ล้านตัน น้ำยางข้น 649,110 ตัน และยางแผ่นรมควัน 454,317 ตัน ตามลำดับ ที่เหลือส่งออกยางชนิดอื่นๆ 72,746 ตัน (ที่มา : กองการยาง กรมวิชาการเกษตร) 

สาระสำคัญในยุทธศาสตร์ยางพาราระยะ 20 ปี พ.ศ. 2561-2580 ประกอบด้วย ยุทธศาสตร์ที่ 1 การสร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกรชาวสวนยางและสถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง ยุทธศาสตร์ที่ 2 การเพิ่มประสิทธิภาพและการยกระดับคุณภาพและมาตรฐาน ยุทธศาสตร์ที่ 3 การวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม ยุทธศาสตร์ที่ 4 การพัฒนาตลาด และช่องทางการจัดจำหน่าย และยุทธศาสตร์ที่ 5 การพัฒนาปัจจัยสนับสนุน และมีคณะทำงานขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ยางพาราระยะ 20 ปี จำนวน 5 คณะดังนี้ 1. คณะทำงานด้านการสร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกรชาวสวนยาง และสถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง 2.คณะทำงานด้านการเพิ่มประสิทธิภาพและการยกระดับคุณภาพมาตรฐาน 3.คณะทำงานด้านการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม และการพัฒนาปัจจัยสนับสนุน 4.คณะทำงานด้านการพัฒนาตลาดและช่องทางการจัดจำหน่าย และ 5.คณะทำงานกลั่นกรองยุทธศาสตร์ยางพาราระยะ 20 ปี โดยนายกสมาคมยางพาราไทยได้รับเกียรติให้เข้าร่วมเป็นคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ยางพาราระยะ 20 ปี ซึ่งมีปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธาน และร่วมเป็นคณะทำงานด้านการพัฒนาตลาดและช่องทางการจัดจำหน่าย ซึ่งมีผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทยเป็นประธาน  ส่วนตัวชี้วัดของแผนยุทธศาสตร์ยางพาราระยะ 20 ปี ในปี 2561-2580 มี 5 ตัวชี้วัดสำคัญ ดังนี้ 1)พื้นที่ปลูกยางพาราลดลงเหลือ 18.4 ล้านไร่ ในปี 2580 2)ปริมาณผลผลิตยางเป็น 360 กิโลกรัม/ไร่/ปี ในปี 2580 3)สัดส่วนการใช้ยางภายในประเทศเป็นร้อยละ 35 ในปี 2580 4)มูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์ยางพาราเป็น 800,000 ล้านบาท ในปี 2580 และ 5)รายได้จากการทำสวนยาง เป็น 19,800 บาท/ไร่/ปี ในปี 2580 โดยจะมีตัวชี้วัดและค่าเป้าหมายของแต่ละยุทธศาสตร์จำนวน 21 ตัวชี้วัด  อย่างไรก็ตามขณะนี้ผลการขับเคลื่อนบางยุทธศาสตร์ห่างจากเป้าหมายที่กำหนดไว้มากเนื่องจากหลากหลายปัจจัย ซึ่งคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ยางพาราฯ จะได้เร่งรัดการขับเคลื่อนผ่านคณะทำงานซึ่งรับผิดชอบแต่ละยุทธศาสตร์ต่อไป  นอกจากนี้ผู้แทนสมาคมฯ ได้นำเสนอประเด็นด้านความยั่งยืนโดยเฉพาะอย่างยิ่งกฎหมายเกี่ยวกับสินค้าปลอดการตัดไม้ทำลายป่า(Deforestation free products) ของสหภาพยุโรป หรือกฎหมายสหภาพยุโรปด้านสิ่งแวดล้อม การค้า และกฎหมายที่เกี่ยวข้องอื่นๆ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือการส่งออกไปยังสหภาพยุโรป และอาจจะขยายไปยังประเทศผู้นำเข้าอื่นๆ ต่อไป

สมาคมยางพาราไทย คาดหวังว่าการบูรณาการความร่วมมือระหว่างทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และเกษตรกรชาวสวนยาง จะส่งผลให้การขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ยางพาราระยะ 20 ปี บรรลุเป้าหมาย เพื่อการพัฒนายางพาราไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป

นายไชยยศ  สินเจริญกุล
นายกสมาคมยางพาราไทย

Signature
นายไชยยศ สินเจริญกุล
นายกสมาคมยางพาราไทย

 

 
 
สาส์นจากนายกทั้งหมด