บทวิเคราะห์สถานการณ์ยางธรรมชาติประจำเดือนเมษายน 2557

ตลาดยาง

ศุกร์ที่ 4 เมษายน 2557

ราคายางลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 5 ปี หลังจากที่รักษาการกระทรวงเกษตรกรและสหกรณ์ นายยุคล ลิ้มแหลมทอง ประกาศว่ารัฐบาลมีโครงการล้างสต็อกยางพารา 2 แสนตัน ในขณะที่ ผู้ซื้อยางและยางล้อ ซื้อยางจำนวนมากในจังหวะราคายางตกต่ำเช่นนี้ รัฐบาลจีนได้ดำเนินมาตรการกระตุนเศรษฐกิจที่กำลังชะลอตัวให้เติบโตขึ้น แต่อาจจะไม่ช่วยหนุนราคายางโดยตรง เพราะมุ่งเน้นไปทางปัจจัยพื้นฐานเศรษฐกิจเป็นหลัก

ศุกร์ที่ 11 เมษายน 2557

สภาวะตลาดซบเซา เนื่องจากอุปทานยางออกสู่ตลาดมากเกินไป กอปรกับสภาวะเศรษฐกิจถดถอยในจีน ซึ่งเป็นผู้ซื้อยางรายใหญ่ที่สุด คาดว่าเศรษฐกิจจีนจะเติบโต 7.3 เปอร์เซ็นต์ในไตรมาส 1/2557 จาก 7.7 เปอร์เซ็นต์ในไตรมาส 4/2556 ฤดูยางผลัดใบในประเทศไทยกำลังจะสิ้นสุดลงในไม่ช้า ผลผลิตก็จะกลับสู่ปกติ เป็นปัจจัยลบต่อราคายางต่อไปอีก ในขณะที่สต็อกยางชิงเต่ายังอยู่ในระดับสูง

ศุกร์ที่ 18 เมษายน 2557

บรรดานักเก็งกำไรเทขายอย่างรุนแรง กอปรกับมีการถือยาวและตัดขาดทุน ทำให้ราคายางยิ่งลดลงกว่าเดิม นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ยางพาราส่วนเกินจะเพิ่มขึ้นอีก 78 เปอร์เซ็นต์ เป็น 652,000 ตันในปีนี้ จากที่ได้คาดการณ์ไว้ในเดือนธันวาคม 2556 ที่ 366,000 ตัน และมีข่าวว่าผลผลิตจากประเทศไทย อาจจะออกมามากกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ด้วย สต็อกยางชิงเต่าเพิ่มขึ้นอีก 10,600 ตัน

การผลิต การใช้ การนำเข้า และการส่งออก

ในปีงบประมาณ 2556-2557 อินเดียนำเข้ายางธรรมชาติเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด 49.3 เปอร์เซ็นต์ ทะลุ 3 แสนตัน/ปี เป็นครั้งแรก ที่ 324,467 ตัน และเป็นปีแรกที่การนำเข้าเพิ่มขึ้นในปริมาณกว่า 1 แสนตัน เนื่องจากฝนตกหนัก และรัฐบาลล้มเหลวในการดำเนินมาตรการปลูกทดแทน และสวนยาง 30 เปอร์เซ็นต์ของประเทศ เป็นต้นยางที่มีอายุมาก ให้ผลผลิตต่ำ ทำให้การผลิตลดลง 7.6 เปอร์เซ็นต์ เป็น 844,000 ตัน ในขณะที่การใช้ยางขยับขึ้นเล็กน้อยจาก 972,705 ตัน เป็น 977,400 ตัน

กรมศุลกากร ประเทศจีน รายงานว่า ในเดือนมีนาคม จีนนำเข้ายางธรรมชาติและยางสังเคราะห์ 410,000 ตัน เพิ่มขึ้น 33.7 เปอร์เซ็นต์จากเดือนกุมภาพันธ์ โดยรวมแล้ว ในไตรมาสแรกของปี 2557 จีนนำเข้ายางธรรมชาติและยางสังเคราะห์รวมกัน 1.02 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 16.5 เปอร์เซ็นต์ yoy

ในปี 2556 ฟิลิปปินส์เป็นผู้ผลิตยางธรรมชาติอันดับที่ 8 ในสมาคมประเทศผู้ผลิตยางธรรมชาติ (ANRPC) ด้วยผลผลิต 116,400 ตัน ปัจจุบันฟิลิปปินส์มีความพยายามในการขยายพื้นที่เพาะปลูก จาก 178,600 เฮกตาร์ในปี 2555 เป็น 211,600 เฮกตาร์ในปี 2557

ในเดือนกุมภาพันธ์ มาเลเซียส่งออกยางธรรมชาติเพิ่มขึ้น 21 เปอร์เซ็นต์ yoy เป็น 74,452 ตัน โดยยางแท่งคิดเป็น 94.9 เปอร์เซ็นต์ของการส่งออกยางประเภทต่างๆ ทั้งหมด และ 57.4 เปอร์เซ็นต์เป็นยางแท่ง SMR20 การนำเข้าในเดือนกุมภาพันธ์ลดลง 16.3 เปอร์เซ็นต์ yoy การผลิตเพิ่มขึ้น 3.7 เปอร์เซ็นต์ yoy เป็น 73,180 ตัน โดย 92.7 เปอร์เซ็นต์มาจากภาคเกษตรกรรายย่อย และ 7.3 เปอร์เซ็นต์มาจากไร่ขนาดใหญ่

The Rubber Economist คาดการณ์ว่า ส่วนเกินยางธรรมชาติในปี 2557 จะอยู่ที่ 652,000 ตัน จากที่ได้คาดการณ์ไว้ในเดือนธันวาคม 2556 ที่ 366,000 ตัน เนื่องจากอุปสงค์ยางชะลอตัว และผลผลิตจากประเทศไทยออกมามากกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้า คาดว่ายางธรรมชาติของโลกจะเพิ่มขึ้น 3.9 เปอร์เซ็นต์ จากที่คาดการณ์ไว้ในเดือนธันวาคมที่ 11.59 ล้านตัน เป็น 12.04 ล้านตัน

ยางล้อ

บริจสโตนมีแผนลงทุนสร้างโรงงานยางล้อเรเดียลสำหรับรถยนต์นั่ง ณ เมือง Ulyanovsk Oblast ประเทศรัสเซีย โดยจะเริ่มดำเนินการผลิตในช่วงครึ่งแรกของปี 2559 เพื่อตอบสนองความต้องการในประเทศรัสเซียเองและกลุ่มประเทศเครือรัฐเอกราช (Commonwealth of Independence States: CIS) กำลังการผลิตจะอยู่ที่ 12,000 หน่วยต่อวันในช่วงครึ่งหลังของปี 2561 รัสเซียและเครือรัฐเอกราช เป็นตลาดขนาดใหญ่ มีประชากรประมาณ 300 ล้านคน ยอดขายยานพาหนะใหม่ในภูมิภาคเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว คาดว่าอุปสงค์ยางล้อจะเพิ่มขึ้นในทิศทางเดียวกันด้วย

คอนติเน็นทัลมีแผนเพิ่มยอดขายภาคยางและพลาสติก (Contitech) เป็น 2 เท่า ที่มูลค่า 11 พันล้านยูโร (15.1 พันล้านดอลลาร์) ในทศวรรษหน้านี้ โดยคอนติเน็นทัลจะซื้อกิจการ Veyance Technologies ของ Carlyle Group ซึ่งเป็นผู้ผลิตท่อและสายพานสำหรับงานอุตสาหกรรม ด้วยเงินมูลค่า 1.4 พันล้านยูโร จะทำให้ยอดขายของ Contitech เพิ่มขึ้นเป็น 5.4 พันล้านยูโร จาก 3.9 พันล้านยูโรในปีก่อน

กลุ่มบริษัทมิเชอลิน มีแผนลงทุน 138 ล้านดอลลาร์ สร้างโรงงานยางล้อ ณ เมือง Olsztyn ประเทศโปแลนด์ เพื่อรองรับการเพิ่มกำลังการผลิตยางล้อเพื่อการเกษตร โดยมิเชอลินซื้อกิจการต่อจาก Stomil-Olsztyn S.A. ซึ่งเคยผลิตยางล้อรถยนต์ ยางล้อรถบรรทุกขนาดเล็กและขนาดใหญ่ และยางล้อเพื่อการเกษตร มิเชอลินได้ลงทุนอย่างมหาศาลไปแล้วในปี 2548 ด้วยเงินลงทุนมูลค่า 330 ล้านดอลลาร์ เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตยางล้อรถยนต์และรถบรรทุกขนาดเล็ก

ยานยนต์

ในเดือนมีนาคม ยอดขายรถยนต์ยุโรปเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 7 เดือน เนื่องจากผู้บริโภคซื้อรถยนต์รุ่นใหม่ เพื่อทดแทนรุ่นเก่า และเศรษฐกิจสหราชอาณาจักรมีการฟื้นตัว ส่งผลให้ความต้องการรถยนต์เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน สมาคมผู้ผลิตยานยนต์ยุโรปรายงานว่า การลงทะเบียนซื้อรถยนต์ในเดือนมีนาคมเพิ่มขึ้น 10 เปอร์เซ็นต์ yoy เป็น 1.49 ล้านคัน ได้รับอานิสงส์จากยอดขายรถยนต์ในสหราชอาณาจักร ที่เพิ่มขึ้น 18 เปอร์เซ็นต์ คิดเป็น 1 ใน 3 ของยอดขายทั้งหมดในภูมิภาค ปัจจัยหลักมาจาก การที่ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจยุโรปฟื้นตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง และวิกฤติหนี้สาธารณะเบาบางลงในสเปน กรีซ และโปรตุเกส การลงทะเบียนซื้อรถยนต์ในสหราชอาณาจักรในเดือนมีนาคม ไต่ระดับสูงขึ้นต่อเนื่องเป็นเวลา 25 เดือน และแซงหน้าเยอรมนี ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค

สมาคมผู้ผลิตยานยนต์จีนรายงานว่า ในเดือนมีนาคม ยอดขายรถยนต์ทุกประเภทในจีน ไต่ระดับสูงขึ้น 7.9 เปอร์เซ็นต์ เป็น 1.71 ล้านคัน เนื่องจากผู้บริโภคแห่ซื้อรถยนต์ ก่อนที่จะมีมาตรการจำกัดการครอบครองรถใน 8 เมืองของจีน โดยรวมแล้ว ยอดขายยานพาหนะทั้งหมด (รวมทั้งรถบัสและรถบรรทุก) เพิ่มขึ้น 6.6 เปอร์เซ็นต์ เป็น 2.17 ล้านคันในเดือนมีนาคม

สมาคมธุรกิจยุโรปรายงานว่า ยอดขายรถยนต์และรถกระบะในรัสเซียในเดือนมีนาคม ลดลงจาก 244,225 คันในเดือนมีนาคมปีก่อน เป็น 243,335 คัน โดยลดลงต่อจากเดือนกุมภาพันธ์ (-2 เปอร์เซ็นต์) และเดือนมกราคม (-6 เปอร์เซ็นต์)เนื่องจากเศรษฐกิจรัสเซียซบเซาลง ทำให้ผู้บริโภคชะลอการซื้อ คาดว่ายอดขายในปีนี้จะตกต่ำ

ในเดือนมีนาคม ยอดขายรถยนต์ในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 6 เปอร์เซ็นต์ เป็น 1.5 ล้านคัน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ไว้ โดยเพิ่มขึ้นในอัตราที่เร็วที่สุดตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีก่อน ยอดขายในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ตกต่ำเป็นอย่างมาก เนื่องจากอากาศหนาวรุนแรง ยอดขายในเดือนมีนาคมช่วยให้ยอดขายทั้งหมดในไตรมาสแรก เพิ่มขึ้น 1.4 เปอร์เซ็นต์ yoy อย่างไรก็ตาม อัตราการเติบโตในไตรมาสแรกปีนี้ช้ากว่าปีก่อน ซึ่งเติบโต 6 เปอร์เซ็นต์ บนพื้นฐานปัจจัยเดียวกัน ได้แก่ อัตราดอกเบี้ยต่ำ อัตราการว่างงานต่ำ และรถรุ่นใหม่ออกสู่ตลาด LMC Automotive คาดการณ์ว่ายอดขายในปีนี้จะลดลงจากที่ได้คาดการณ์ไว้ก่อนหน้าที่ 16.2 ล้านคัน เป็น 16.1 ล้านคัน

สมาคมผู้ค้ายานยนต์ญี่ปุ่นรายงานว่า ยอดขายรถยนต์ รถบรรทุก และรถบัสใหม่ในญี่ปุ่นในเดือนมีนาคม เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด 14.5 เปอร์เซ็นต์ yoy เป็น 481,039 คัน เป็น 420,069 คัน โดยเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 7 เนื่องจากผู้บริโภคแห่เร่งซื้อรถ ก่อนที่จะมีการปรับภาษีรถในเดือนเมษายน