ฤดูกาลยางผลัดใบในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างเริ่มแล้ว ตั้งแต่สงขลา ลงไปจนถึงสุไหงโกลก ชาวสวนยางพาราก็เริ่มทยอยหยุดกรีดกันแล้ว เนื่องจากปีนี้ฤดูแล้งมาเร็วกว่าปรกติ และมีความแห้งแล้งมากขึ้นและยาวนานกว่าปรกติ ทำให้น้ำในคลองในหลายพื้นที่แห้งขอดลง ส่งผลให้วัตถุดิบยางพาราลดลงด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ราคายางก็ยังไม่กระเตื้อง เนื่องจากผู้ซื้อต่างก็ได้คาดการณ์ไว้ล่วงหน้าแล้วว่า ปีนี้ฤดูแล้งยาวนาน จึงได้ซื้อวัตถุดิบเก็บตุนล่วงหน้าไว้เรียบร้อยแล้ว
ส่วนแนวโน้มในการส่งออกยางช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา จะไม่ดีต่อเนื่องไปจนถึงไตรมาสที่สอง เนื่องจากผลผลิตออกสู่ตลาดมากเกินไป เนื่องจากประเทศไทยได้ขยายพื้นที่ปลูกยางเมื่อ 7-8 ปีที่ผ่านมา เช่นเดียวกับประเทศเพื่อนบ้าน และเริ่มกรีดได้แล้ว ในขณะที่ความต้องการไม่เพิ่มขึ้น ทำให้เกิดภาวะราคายางตกต่ำ และจะเป็นอยู่ในลักษณะนี้ จนกว่าเศรษฐกิจจีน สหภาพยุโรป และสหรัฐฯ จะดีขึ้น
ในด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศ ก็ยังน่าเป็นห่วงอยู่ เพราะความไม่มั่นคงทางการเมือง ส่งผลลบต่อแผนการลงทุนของต่างชาติเป็นอย่างมาก แต่เดิมไทยเป็นฐานการผลิตและส่งออกรถยนต์ให้กับประเทศในอาเซียน ปัจจุบันพบว่าผู้ผลิตยานยนต์บางรายได้ย้ายฐานการผลิตรถยนต์ไปอยู่ที่ประเทศอินโดนีเซียบ้างแล้ว เพราะความไม่มั่นคงทางการเมืองของไทย
สมาคมยางพาราไทย