ราคาเฉลี่ยยางแผ่นรมควันชั้น 3 ณ ตลาดกลางยางพาราสงขลา เดือนสิงหาคม 2562 อยู่ที่กิโลกรัมละ 41.76 บาท ลดลงจากเดือนกรกฎาคม 17.04 เปอร์เซ็นต์ มีปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อราคายาง ดังนี้

      การชะลอตัวของการเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลก จากผลกระทบที่ล่าช้าของการคุมเข้มทางการเงินในสหรัฐฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มีการคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจของจีนจะอ่อนตัวลง และ GDP สหรัฐจะมีการปรับตัวลดลงอย่างเด่นชัดในปี 2563 คาดการณ์ผลผลิตยางธรรมชาติในปี 2562 มีปริมาณลดลง เนื่องด้วย พื้นที่เพาะปลูกของประเทศอินโดนีเซียประสบปัญหาโรคใบร่วงในยางพารา สำหรับประเทศไทยในช่วงต้นปีก็ได้รับผลกระทบจากพายุโซนร้อน และภัยแล้งจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และจีนเช่นกัน ในส่วนของตลาดน้ำมันดิบมีแนวโน้มถูกกดดัน จากความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจที่ซบเซา และอาจเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย อันเป็นผลต่อเนื่องมาจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่รุนแรงขึ้น ซึ่งล่าสุดจีนประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ มูลค่ารวม 7.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ประกอบด้วยน้ำมันดิบ สินค้าทางการเกษตร และยานยนต์ โดยการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าในครั้งนี้ถูกแบ่งออกเป็น 2 ช่วง คือบางส่วนจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ก.ย. 62 และ 15 ธ.ค. 62 ต่อไป

      ในเดือนกรกฎาคม ไทยส่งออกยางรวมทั้งสิ้น 337,857 ตัน เพิ่มขึ้น 3.57 เปอร์เซ็นต์จากเดือนมิถุนายน และลดลง 17.51 เปอร์เซ็นต์ yoy สร้างมูลค่าการส่งออก 1.57 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.78 เปอร์เซ็นต์จากเดือนมิถุนายน และลดลง 13.87 เปอร์เซ็นต์ yoy โดยรวมแล้ว ในช่วง 7เดือนที่ผ่านมานั้น ไทยส่งออกยางทั้งสิ้น 2,656,824 ตัน ลดลง 10.33 เปอร์เซ็นต์ yoy สร้างมูลค่าการส่งออกรวม 1.14 แสนล้านบาท ลดลง 14.22 เปอร์เซ็นต์ yoy

      สำหรับภาคยางล้อ ในเดือนกรกฎาคม ไทยส่งออกยางล้อรวมทั้งสิ้น 11.75 ล้านเส้น เพิ่มขึ้น 7.38 เปอร์เซ็นต์ yoy สร้างมูลค่าการส่งออก 1.53 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.62 เปอร์เซ็นต์ yoy โดยรวมแล้ว ในช่วง 7เดือนที่ผ่านมานั้น ไทยส่งออกยางล้อรวม 77.51 ล้านเส้น เพิ่มขึ้น 19.82 เปอร์เซ็นต์ yoy สร้างมูลค่าการส่งออกรวม 1.01 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 35.72 เปอร์เซ็นต์ yoy