รายงานสถานการณ์ยางพาราประจำเดือนมิถุนายน 2561
ราคาเฉลี่ยยางแผ่นรมควันชั้น 3 ณ ตลาดกลางยางพาราสงขลา เดือนมิถุนายน 2561 อยู่ที่กิโลกรัมละ 47.79 บาท ลดลงจากเดือนพฤษภาคม 8.1 เปอร์เซ็นต์ มีปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อราคายาง ดังนี้ มีการเทขายในตลาดเซี่ยงไฮ้ เนื่องจากราคาน้ำมันลดลงและสงครามการค้า ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงตั้งแต่ปลายเดือนก่อน เนื่องจากสต็อกน้ำมันและการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงปลายเดือน หลังจากการประชุมกลุ่มโอเปก โดยรัสเซียและอิหร่านตกลงเพิ่มอุปทานเพียงแค่ไม่เกิน 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน นอกจากนี้ นักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน รวมทั้งประเทศต่างๆที่มีการตอบโต้สหรัฐฯ ที่เรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมก่อนหน้านี้ ซึ่งทำให้การเจริญเติบโตเศรษฐกิจโลกชะลอตัว อีกทั้งสถานการณ์ความไม่แน่นอนทางการเมืองของอิตาลีและสเปน อาจส่งผลให้เกิดภาวะไร้เสถียรภาพในยูโรโซน มีปัจจัยสนับสนุนราคายาง ได้แก่ ค่าเงินบาทอ่อนค่าลง เนื่องจากหลายประเทศได้ประกาศปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพื่อรักษาเสถียรภาพภาคการเงินและภาคการผลิตของประเทศ กอปรกับมีฝนตกชุกในพื้นที่ปลูกยาง ทำให้ปริมาณยางออกสู่ตลาดน้อย อย่างไรก็ตาม มีความกังวลด้านความต้องการยางลดลง เนื่องจากสหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีนำเข้ายานยนต์ นอกจากนี้ มีอุปทานยางจำนวนมากในเอเชีย โดยสต็อกยาง ณ ท่าเรือญี่ปุ่นและจีนยังคงมีปริมาณมาก
ในเดือนพฤษภาคม ไทยส่งออกยางธรรมชาติ (รวมยางคอมปาวด์) 301,715 ตัน ลดลง 13.30 เปอร์เซ็นต์จากเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 8.81 เปอร์เซ็นต์ yoy สร้างมูลค่าการส่งออก 1.34 หมื่นล้านบาท ลดลง 14.43 เปอร์เซ็นต์จากเดือนเมษายน และ 23.19 เปอร์เซ็นต์ yoy โดยรวมแล้ว ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ ไทยส่งออกยางทั้งสิ้น 1,582,167 ตัน เพิ่มขึ้น 2.37 เปอร์เซ็นต์ yoy สร้างมูลค่าการส่งออกรวม 6.98 หมื่นล้านบาท ลดลง 32.58 เปอร์เซ็นต์ yoy
สำหรับภาคยางล้อ ในเดือนพฤษภาคม ไทยส่งออกยางล้อรวมทั้งสิ้น 11.21 ล้านเส้น เพิ่มขึ้น 3.08 เปอร์เซ็นต์ yoy สร้างมูลค่าการส่งออก 1.32 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.77 เปอร์เซ็นต์ yoy โดยรวมแล้ว ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ ไทยส่งออกยางล้อรวม 53.65 ล้านเส้น เพิ่มขึ้น 8.74 เปอร์เซ็นต์ yoy สร้างมูลค่าการส่งออกรวม 6.11 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.83 เปอร์เซ็นต์ yoy
|