|
 รายงานสถานการณ์ยางพาราประจำเดือนกรกฎาคม 2561
ราคาเฉลี่ยยางแผ่นรมควันชั้น 3 ณ ตลาดกลางยางพาราสงขลา เดือนกรกฎาคม 2561 อยู่ที่กิโลกรัมละ 45.35 บาท ลดลงจากเดือนมิถุนายน 5.11 เปอร์เซ็นต์ มีปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อราคายาง ดังนี้ มีความต้องการน้อย โดยยอดขายล้อยางไม่ขยายตัว ยอดขายรถยนต์ในประเทศจีนลดลง สวนทางกับยอดจดทะเบียนรถยนต์ใหม่ในสหภาพยุโรปเดือนมิถุนายนเพิ่มสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ ความกังวลด้านสต็อกส่วนเกินในจีนและญี่ปุ่น ราคาน้ำมันร่วงลงในช่วงกลางเดือน หลังตลาดกังวลเกี่ยวกับการขยายความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน กอปรกับลิเบียประกาศที่จะเปิดดำเนินการท่าขนส่งน้ำมันดิบอีกครั้ง ปัจจัยกดดันราคายางจากสงครามการค้ายังคงมีความตึงเครียดและพร้อมที่จะมีการตอบโต้ซึ่งกันและกัน ทำให้นักลงทุนทั่วโลกชะลอการลงทุน ปัญหาเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นทั่วโลกจะส่งผลต่อการบริโภคและการลงทุน โดยเฉพาะราคาวัตถุดิบที่ขยายตัวต่อเนื่อง ดอกเบี้ยนโยบายในหลายประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้นและอาจนำไปสู่ภาวะชะงักงันทางเศรษฐกิจในที่สุด จีนปล่อยเงินหยวนอ่อนค่า เพื่อตอบโต้กับดอลลาร์สหรัฐฯ อาจนำมาซึ่งสงครามค่าเงิน อย่างไรก็ตาม ยังคงมีปัจจัยบวกบ้างเล็กน้อย จีนจะดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนปรนในช่วงครึ่งหลังของปี อาจช่วยกระตุ้นความต้องการในกรอบจำกัด ผู้ประกอบการในประเทศไทยยังคงมีความต้องการยางเพิ่มขึ้น สวนทางกับปริมาณยางในตลาดมีน้อย เนื่องจากฝนตกชุกในหลายพื้นที่ปลูกยาง
ในเดือนมิถุนายน ไทยส่งออกยางธรรมชาติ (รวมยางคอมปาวด์) 286,214 ตัน ลดลง 5.14 เปอร์เซ็นต์จากเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 9.56 เปอร์เซ็นต์ yoy สร้างมูลค่าการส่งออก 1.29 หมื่นล้านบาท ลดลง 3.41 เปอร์เซ็นต์จากเดือนพฤษภาคม และ 13.71 เปอร์เซ็นต์ yoy โดยรวมแล้ว ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ไทยส่งออกยางทั้งสิ้น 1,868,382 ตัน เพิ่มขึ้น 3.41 เปอร์เซ็นต์ yoy สร้างมูลค่าการส่งออกรวม 8.27 หมื่นล้านบาท ลดลง 30.18 เปอร์เซ็นต์ yoy
สำหรับภาคยางล้อ ในเดือนมิถุนายน ไทยส่งออกยางล้อรวมทั้งสิ้น 11.05 ล้านเส้น ลดลง 2.16 เปอร์เซ็นต์ yoy สร้างมูลค่าการส่งออก 1.32 หมื่นล้านบาท ลดลง 4.6 เปอร์เซ็นต์ yoy โดยรวมแล้ว ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ไทยส่งออกยางล้อรวม 64.69 ล้านเส้น เพิ่มขึ้น 6.71 เปอร์เซ็นต์ yoy สร้างมูลค่าการส่งออกรวม 7.44 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.22 เปอร์เซ็นต์ yoy
|
