รายงานสถานการณ์ยางธรรมชาติประจำเดือนพฤศจิกายน 2562
ราคาเฉลี่ยยางแผ่นรมควันชั้น 3 ณ ตลาดกลางยางพาราสงขลา เดือนพฤศจิกายน 2562 อยู่ที่กิโลกรัมละ 40.42 เพิ่มขึ้น (+3.69%) จาก 38.98 บาท/กิโลกรัมในเดือนตุลาคม 2562 ในเดือนพฤศจิกายนราคายางยังคงทรงตัวและมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ในขณะเดียวกันตลาดล่วงหน้าต่างประเทศมีการปรับตัวในทิศทางบวกเล็กน้อยเช่นกัน เนื่องด้วยสภาพภูมิอากาศภาคใต้ตอนล่างที่มีฝนตกอย่างต่อเนื่อง และการเกิดโรคระบาดของเชื้อราที่มากขึ้น ทำให้ปริมาณยางพาราออกสู่ตลาดลดน้อยลง และยังมีปัจจัยกดดันอื่นๆ เช่น การแข็งค่าค่าเงินบาท ค่าเงินเยน สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน OECD ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจโลกลงเหลือร้อยละ 2.9 จากเป้าเดิมร้อยละ 3.0 รอติดตามผลการประชุม FOMC ช่วงต้นเดือน ธ.ค. ว่าจะมีข้อสรุปไปทิศทางใด และจะส่งผลต่อภาพรวมเศรษฐกิจโลกปีหน้าอย่างไร จะมีมาตรการหรือนโยบายอะไรเพิ่มเติมของเศรษฐกิจสหรัฐฯหรือไม่ สำหรับประเทศไทย คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% จากระดับ 1.50% มาอยู่ที่ 1.25% ต่อปี เหตุเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าคาด จากการส่งออกที่ลดลง ซึ่งส่งผลไปสู่การจ้างงานและอุปสงค์ในประเทศ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มต่ำกว่าขอบล่างของกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อ หวังลดดอกเบี้ยจะช่วยหนุนการเติบโตของเศรษฐกิจ รัฐบาลได้มีมาตรการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายใต้กรอบการบริหารเศรษฐกิจที่สำคัญ อาทิ มาตรการเพื่อบรรเทาค่าครองชีพสำหรับเกษตรกรผู้ประสบภัยแล้งและเกษตรกรรายย่อย มาตรการส่งเสริมการลงทุนและการปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางการลงทุนเพื่อชักจูงและรองรับการลงทุนจากการย้ายฐานการผลิตของนักลงทุนต่างชาติมาประเทศไทย (Thailand Plus Package) และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยว เป็นต้น และในระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน – 1 ธันวาคม 2562 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ได้กำหนดการจัดงาน “Thailand Rubber Expo” ณ อิมแพค แอ็กซิบิชั่น ฮอลล์ 5 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี เพื่อกระตุ้นโดยให้ความร่วมมือกับทุกภาคส่วน ทุกกระทรวงในการทำเอ็มโอยูที่จะใช้น้ำยางเพิ่มมากขึ้นมีการเปิดตลาดใหม่ ๆ ไปขายยางในต่างประเทศเพื่อที่จะระบายยางให้มากที่สุด คาดว่าราคายางน่าจะขยับกระเตื้องขึ้น และแนวโน้มกลางปีหน้าราคาน่าจะขยับตัวได้ดีขึ้น" สำหรับดัชนี PMI ภาคการผลิตจากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ของสหรัฐฯ ปรับตัวลงสู่ระดับ 48.1 ในเดือนพฤศจิกายน จากระดับ 48.3 ในเดือนตุลาคม และดัชนี PMI สำหรับภาคการผลิตในประเทศไทยลดลงจาก 50.0 ในเดือนตุลาคม มาอยู่ที่ 49.3 ในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งบ่งชี้ว่าสภาวะของภาคส่วนปรับตัวลดลง และในส่วนของด้านน้ำมันนั้น รัสเซียเสนอที่จะยังไม่เปลี่ยนแปลงข้อตกลงการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปกและประเทศพันธมิตร (OPEC+) ที่ปรับลดกำลังการผลิต 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งจะสิ้นสุดในเดือน มี.ค. 63 ทั้งนี้ตลาดคาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าการประชุมในวันที่ 5-6 ธ.ค. 62 จะมีนโยบายการขยายระยะเวลาการปรับลดกำลังการผลิตไปเป็นเดือนมิ.ย. 63 ในเดือนตุลาคม ไทยส่งออกยางรวมทั้งสิ้น 364,793 ตัน เพิ่มขึ้น 17.12 เปอร์เซ็นต์จากเดือนกันยายน และลดลง 18.77 เปอร์เซ็นต์ yoy สร้างมูลค่าการส่งออก 1.46 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.83 เปอร์เซ็นต์จากเดือนกันยายน และลดลง 22.57 เปอร์เซ็นต์ yoy โดยรวมแล้ว ในช่วง 10 เดือนสะสมที่ผ่านมานี้ ไทยส่งออกยางทั้งสิ้น 3,681,490 ตัน ลดลง 12.71 เปอร์เซ็นต์ yoy สร้างมูลค่าการส่งออกรวม 1.57 แสนล้านบาท ลดลง 16.10 เปอร์เซ็นต์ yoy สำหรับภาคยางล้อ ในเดือนตุลาคม ไทยส่งออกยางล้อรวมทั้งสิ้น 11.93 ล้านเส้น เพิ่มขึ้น 5.37เปอร์เซ็นต์ yoy สร้างมูลค่าการส่งออก 1.47 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.01 เปอร์เซ็นต์ yoy โดยรวมแล้ว ในช่วง 10 เดือนแรกสะสมที่ผ่านมานี้ ไทยส่งออกยางล้อรวม 112.39 ล้านเส้น เพิ่มขึ้น 3.13 เปอร์เซ็นต์ yoy สร้างมูลค่าการส่งออกรวม 1.45 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.77 เปอร์เซ็นต์ yoy
|