E-Magazine facebook
สาส์นจากนายกสมาคม TRA PRESIDENT VIEW
     
  history  
 
     
     บทวิเคราะห์สถานการณ์ยางพารา  ธันวาคม 2567 [เลือกปีปัจจุบัน]      
    
**กรุณาใช้ Adobe Acrobat Reader ในการอ่านไฟล์   
 

 รายงานสถานการณ์ยางธรรมชาติ ประจำเดือนพฤศจิกายน - ธันวาคม 2567

เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังขยายตัวภายใต้ความไม่แน่นอน โดยสหรัฐฯ เตรียมเก็บภาษีนำเข้าจากหลายประเทศ เช่น สำหรับการนำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกจะเรียกเก็บภาษีนำเข้า 25% และจะเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มอีก 10% ซึ่งผลกระทบจากนโยบายเศรษฐกิจของทรัมป์ที่ยังไม่แน่นอน ซึ่งอาจส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้นในระยะถัดไปเศรษฐกิจสหรัฐฯที่แม้ชะลอตัวแต่ยังคงมีเสถียรภาพ (soft-landing) ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคอุตสาหกรรมการผลิต (Manufacturing Purchasing Manager Index (PMI)) เดือนพฤศจิกายนเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 49.7 จาก 48.5 ในเดือนก่อนหน้า และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐฯ (Consumer Confidence Index: CCI) ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดิม 108.7 ในเดือนตุลาคม 2567 เป็น 111.7 ในเดือนพฤศจิกายน 2567 เนื่องจากปัจจัยด้านสภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศโดยเฉพาะตลาดแรงงานที่คาดว่าปรับตัวดีขึ้น แม้ในภาคธุรกิจยังคงมีความกังวล

เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวที่ร้อยละ 2.7 และ 2.9 ในปี 2567 และ 2568 ตามลำดับ การบริโภคภาคเอกชนลดลง แต่ภาคการบริการและการท่องเที่ยวยังขยายตัวได้ แม้นักท่องเที่ยวมาเลเซียลดลงชั่วคราวจากผลของน้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ของไทยก็ตาม เผชิญความท้าทายจากการแข่งขันจากภายนอกที่รุนแรงขึ้น และความไม่แน่นอนในระยะข้างหน้าที่สูงขึ้น ซึ่งปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ร้อยละ 2.25 ต่อปี สำหรับอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทเทียบกับดอลลาร์ในเดือนพฤศจิกายน 2567 เฉลี่ยอ่อนค่าลง ตามความไม่แน่นอนของขนาดการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ หลังทราบผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ สำหรับเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core CPI) (เงินเฟ้อทั่วไป เมื่อหักอาหารสดและพลังงานออก) สูงขึ้นร้อยละ 0.80 (YoY) ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยจากเดือนตุลาคม 2567 และในส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไปนั้น (Headline Inflation) เดือนพฤศจิกายน 2567 สูงขึ้นร้อยละ 0.95 (YoY) ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยรวมเดือนพฤศจิกายน 2567 ยังปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 53.2 จากระดับ 52.9 ในเดือนก่อนหน้าอีกด้วย

สรุปภาพรวมการค้าระหว่างประเทศของไทย เดือนพฤศจิกายน 2567 ส่งออกมูลค่า 25,60.16 ล้านเหรียญสหรัฐ (849,069.32 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 8.17 แต่ลดลงจากเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ร้อยละ 5.93 ขณะที่นำเข้ามีมูลค่า 25,832.53 ล้านเหรียญสหรัฐ (867,456.38 ล้านบาท) ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 7.22 และลดลงจากเดือนตุลาคมที่ผ่านมาร้อยละ 7.19 ไทยขาดดุลการค้ามูลค่า 224.37 ล้านเหรียญสหรัฐ (ขาดดุล 18,387.06 ล้านบาท) (อ้างอิง: สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ *ข้อมูลเบื้องต้น ปี 2567

พลังงาน (น้ำมัน) : สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) เปิดเผยตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 29 พฤศจิกายน 2567 ปรับลดลง 5.1 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 423.4 ล้านบาร์เรล ราคาน้ำมันดิบยังมีแนวโน้มปรับเพิ่ม หลังมีรายงานว่าโอเปกพลัสอาจพิจารณาเลื่อนแผนการปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันออกไปจากเดือนมกราคม 2568 ไปยังเดือนเมษายน 2568 นโยบายการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ FED ยังคงไม่แน่นอน ค่าเงินเหรียญสหรัฐฯ อาจแข็งค่าขึ้น เมื่อทางประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศจะขึ้นภาษีนำเข้า 100% ต่อประเทศในกลุ่ม BRICS หลังสถาบันวิจัยเศรษฐกิจ (The Conference Board: CB) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้นจาก 108.7 ในเดือนตุลาคม 2567 เป็น 111.7 ในเดือนพฤศจิกายน 2567 ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและเบรนท์เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา อยู่ที่ระดับ 68.00 และ 72.94 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ตามลำดับ

ยางพารา: ในเดือนพฤศจิกายน 2567 ราคายาง ณ สำนักงานตลาดกลางยางพาราจังหวัดสงขลา ราคายางภายในประเทศภาพรวมมีการปรับตัวสอดคล้องกับราคาตลาดล่วงหน้าต่างประเทศโดย ราคายางในตลาดสิงคโปร์ (SICOM) ราคาเฉลี่ย 191.11 เซนต์ต่อกิโลกรัม ผลผลิตยางธรรมชาติจะออกสู่ตลาดลดลง เนื่องด้วยผลกระทบจากอุทกภัย ในหลายจังหวัดภาคใต้ ซึ่งพื้นที่เกษตรและพื้นที่ปลูกยางพาราได้รับความเสียหายในหลายพื้นที่ อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องติดตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจของจีนและสหรัฐฯ ผลกระทบที่อาจจะตามมาภายหลังการเลือกตั้งของสหรัฐอเมริกา ทั้งนี้ ไทยมีปริมาณส่งออกยางธรรมชาติเดือนพฤศจิกายน 2567 จำนวน 392,626 ตัน คิดเป็นมูลค่าการส่งออก 2.62 หมื่นล้านบาท ส่วนยางล้อในเดือนพฤศจิกายน 2567 ไทยส่งออกยางล้อ 13.2 ล้านเส้น คิดเป็นมูลค่าการส่งออก 2.172 หมื่นล้านบาท

กลุ่มยานยนต์: สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) จำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือนพฤศจิกายน 2567 มีทั้งสิ้น 117,251 คัน ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 1.34 ผลิตเพื่อส่งออกในเดือนพฤศจิกายน 2567 ผลิตได้ 80,022 คัน เท่ากับร้อยละ 68.25 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 20.67 และผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศในเดือนพฤศจิกายน 2567 จำนวน 37,229 คัน เท่ากับร้อยละ 31.75 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 40.42 ส่วนยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนพฤศจิกายน2567 มีจำนวนทั้งสิ้น 42,309 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.25 จากเดือนก่อนหน้า แต่ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 31.34 และยอดผลิตรถยนต์ตั้งแต่เดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2567 มีจำนวนรวม 1,364,119 คัน ลดลง 20.14% จากปี 2566


หมายเหตุ: ข้อมูลต่างๆ ที่ปรากฏ เป็นข้อมูลที่ได้จากแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย ซึ่งได้นำมารวบรวมและวิเคราะห์ประมวลผล ทั้งนี้ การเผยแพร่ข้อมูลเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลแก่ผู้สนใจเท่านั้น โดยสมาคมยางพาราไทย จะไม่รับผิดชอบในความเสียหายใดใดที่อาจเกิดขึ้นจากการที่มีบุคคลนำข้อมูลนี้ไปใช้ไม่ว่าโดยทางใด

 
 
 
 
     
 
 
 

 

เลือกปี  
prev มกราคม | กุมภาพันธ์ | มีนาคม | เมษายน | พฤษภาคม | มิถุนายน | กรกฏาคม | สิงหาคม | กันยายน | ตุลาคม | พฤศจิกายน | ธันวาคม next

 
     
 

 

หน้าหลัก  |  รายชื่อสมาชิก  |  ข่าวสาร  |  กิจกรรม  |  ราคายาง  |  สถานการณ์ยางพารา  |  สถิติยางพารา  |  คุยกันเรื่องยาง  |  เชื่อมโยงเว็บไซต์  |  ติดต่อสอบถาม

สมาคมยางพาราไทย  45, 47 ถนนโชติวิทยะกุล 3 อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา 90110
โทรศัพท์  074-429011-2 , 074-429311     โทรสาร  074-429312     E-mail:  tra@thairubber.org

 

©Copyright 2007. All Rights Reserved. Developed by ME-FI dot com