รายงานสถานการณ์ยางพาราประจำเดือนตุลาคม 2561
ราคาเฉลี่ยยางแผ่นรมควันชั้น 3 ณ ตลาดกลางยางพาราสงขลา เดือนตุลาคม 2561 อยู่ที่กิโลกรัมละ 42.37 บาท ลดลงจากเดือนกันยายน 0.12 เปอร์เซ็นต์ มีปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อราคายาง ดังนี้ สต็อกยางเซี่ยงไฮ้ไต่ระดับสูงขึ้น สวนทางกับความต้องการที่ลดลง ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง เนื่องจากสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ อยู่ในระดับสูง กอปรกับความต้องการน้ำมันโลกลดลง อันเป็นผลมาจากสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ซึ่งส่งผลให้เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มชะลอตัว โดยเฉพาะในประเทศผู้ซื้ออย่างจีน การเจริญเติบโตเศรษฐกิจจีนในช่วง 3 ไตรมาสที่ผ่านมาลดลง 0.2 เปอร์เซ็นต์ ต่ำกว่าการคาดการณ์ของตลาด ภาคการผลิตและภาคการส่งออกของจีนเริ่มผลิตและส่งออกน้อยลง นอกจากนี้ อินเดียประสบปัญหาเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ยังคงมีปัจจัยบวกช่วยพยุงราคายาง อันได้แก่ ปริมาณยางพาราของไทยลดลง เนื่องจากปริมาณฝนในภาคใต้เป็นอุปสรรคในการกรีดยาง สวนทางกับความต้องการของผู้ซื้อที่มีอย่างต่อเนื่อง ทั้งในและนอกประเทศ ภาคการส่งออกของไทยโดยรวมขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากค่าเงินบาทอ่อนค่าลง นอกจากนี้ มีปัจจัยสนับสนุนการใช้ยาง ได้แก่ ยอดจำหน่ายรถยนต์ของจีนในช่วง 8 เดือนแรกเพิ่มขึ้น 3 เปอร์เซ็นต์จากปีก่อน เป็น 18 ล้านคัน ภาคการผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
ในเดือนกันยายน ไทยส่งออกยางธรรมชาติ (รวมยางคอมปาวด์) 282,775 ตัน ลดลง 9.01 เปอร์เซ็นต์จากเดือนสิงหาคม และ 8.85 เปอร์เซ็นต์ yoy สร้างมูลค่าการส่งออก 1.18 หมื่นล้านบาท ลดลง 11.27 เปอร์เซ็นต์จากเดือนสิงหาคม และ 23.96 เปอร์เซ็นต์ yoy โดยรวมแล้ว ในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปีนี้ ไทยส่งออกยางทั้งสิ้น 2,765,256 ตัน เพิ่มขึ้น 1.32 เปอร์เซ็นต์ yoy สร้างมูลค่าการส่งออกรวม 1.21 แสนล้านบาท ลดลง 26.52 เปอร์เซ็นต์ yoy
สำหรับภาคยางล้อ ในเดือนกันยายน ไทยส่งออกยางล้อรวมทั้งสิ้น 10.7 ล้านเส้น ลดลง 0.47 เปอร์เซ็นต์ yoy สร้างมูลค่าการส่งออก 1.36 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.14 เปอร์เซ็นต์ yoy โดยรวมแล้ว ในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปีนี้ ไทยส่งออกยางล้อรวม 97.66 ล้านเส้น เพิ่มขึ้น 4.94 เปอร์เซ็นต์ yoy สร้างมูลค่าการส่งออกรวม 1.15 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.49 เปอร์เซ็นต์ yoy
|