|
 รายงานสถานการณ์ยางธรรมชาติ ประจำเดือนเมษายน 2566
เศรษฐกิจโลกยังคงชะลอตัว จากวิกฤตความเชื่อมั่นของระบบสถาบันการเงิน อาจนำไปสู่ภาวะตึงตัวด้านสินเชื่อต่อภาคธุรกิจและภาคครัวเรือน และกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ นายเดวิด มัลพาสส์ ประธานธนาคารโลกได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกในปี 2566 คาดว่าจะเพิ่มขึ้น เป็น 2% จากเดิม 1.7% เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา แต่การชะลอตัวจากการเติบโตที่แข็งแกร่งในปี 2565 จะเพิ่มปัญหาหนี้ให้กับกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา ทั้งนี้ ยังคงต้องจับตามองการเติบโตของเศรษฐกิจจีน หากมีการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนนั้นอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโลก
เศรษฐกิจไทยได้รับแรงสนับสนุนจากการบริโภคที่ปรับตัวดีขึ้นและภาคการท่องเที่ยวที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคเอเชียและกลุ่มสหภาพยุโรปที่เพิ่มขึ้น ส่วนในไตรมาสที่ 1 ปี 2566 เศรษฐกิจไทยปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อน โดยจำนวนนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติที่เพิ่มขึ้นเป็นแรงส่งสำคัญ ทั้งนี้ สำนักงานเศรษฐกิจการคลังประเมินและคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 2566 ว่าจะขยายตัวที่ร้อยละ 3.6 ต่อปี โดยเพิ่มขึ้นจากปีก่อน
ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมของไทย (Thailand Industrial Sentiment Index: TISI) เดือนเมษายน 2566 ปรับตัวลดลงจาก 97.8 เป็น 95.0 เนื่องจากภาคการผลิตชะลอตัว อุปสงค์ต่างประเทศอ่อนแอ อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ปรับเพิ่มขึ้น แต่ยังมีปัจจัยสนับสนุนจากการขยายตัวการบริโภคในประเทศและนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทางภาครัฐควรมีมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าไฟฟ้า เพื่อบรรเทาผลกระทบและลดต้นทุนการผลิตให้กับภาคอุตสาหกรรม ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยรวมเดือนเมษายน 2566 ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 53.5 จากระดับ 52.3 ในเดือนก่อนหน้า
สรุปภาพรวมการค้าระหว่างประเทศของไทย เดือนมีนาคม 2566 ส่งออกมูลค่า 942,938.72 ล้านบาท (27,654.35 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2565 ร้อยละ 2.24 และเพิ่มขึ้นจากเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาร้อยละ 29.15 ขณะที่นำเข้ามูลค่า 860,535.49 ล้านบาท (24,935.54 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) ลดลงจากเดือนมีนาคม 2565 ร้อยละ 1.04 แต่เพิ่มขึ้นจากเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาร้อยละ 10.83 เดือนมีนาคม 2566 ไทยเกินดุลการค้ามูลค่า 82,403.23 บาท (เกินดุล 2,718.81 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) (อ้างอิง: กระทรวงพาณิชย์ *ข้อมูล ปี 2566 เป็นข้อมูลเบื้องต้น)
สำหรับดัชนีภาคการผลิต (S&P Global US Manufacturing PMI (PMI)) เดือนเมษายน 2566 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนมาอยู่ที่ระดับ 50.2 จากระดับ 49.2 ในเดือนมีนาคม 2566 ส่วนดัชนี PMI สำหรับภาคการผลิตในประเทศไทยในเดือนเมษายน 2566 ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 60.4 จากระดับ 53.1 ในเดือนมีนาคม สภาวะของภาคการผลิตในประเทศมีคำสั่งซื้อใหม่ การจัดซื้อ และสต็อกวัตถุดิบเพิ่มขึ้น รวมถึงการจ้างงานที่ปรับตัวดีขึ้นเช่นกัน
พลังงาน (น้ำมัน) : สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐฯ (API) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ สิ้นสุดวันที่ 21 เม.ย. 2566 ปรับตัวลดลงกว่า 6.1 ล้านบาร์เรลสู่ระดับ 466 ล้านบาร์เรล ภาพรวมราคาน้ำมันดิบยังผันผวน โดยตลาดยังคงติดตามการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยที่ระดับ 25bps ในการประชุมซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 2 – 3 พ.ค. หรือไม่ ซึ่งสร้างความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจโลก น้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและเบรนท์เมื่อวันที่ 27 เม.ย. 2566 ที่ผ่านมา อยู่ที่ระดับ 74.76 และ 78.37 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ตามลำดับ
ยางพารา: ในเดือนเมษายน 2566 ราคายาง ณ สำนักงานตลาดกลางยางพาราจังหวัดสงขลาเฉลี่ยนั้น ราคายางภาพรวมปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในเดือนที่ผ่านมา จากปัจจัยกดดันจากค่าเงินบาท ราคาน้ำมัน สภาพอากาศ อีกทั้ง ตลาดยังคงกังวลการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ ในเดือนมีนาคม 2566 ไทยมีปริมาณส่งออกยางธรรมชาติ จำนวน 453,417 ตัน คิดเป็นมูลค่าการส่งออก 2.15 หมื่นล้านบาท ส่วนยางล้อในเดือนเดียวกันนี้ ไทยส่งออกยางล้อ 12.25 ล้านเส้น คิดเป็นมูลค่าการส่งออก 2.05 หมื่นล้านบาท
กลุ่มยานยนต์: จำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือนมีนาคม 2566 มีจำนวนทั้งสิ้น 179,848 คัน เพิ่มขึ้น 4.16% (YoY) และเพิ่มขึ้น 8.60% จากเดือนกุมภาพันธ์ 2566 เพิ่มขึ้นเพราะได้รับชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์เพิ่มขึ้น โดยแบ่งเป็นการผลิตเพื่อส่งออกเดือนมีนาคม 2566 จำนวน 100,986 คัน (56.15% ของยอดผลิตทั้งหมด) เพิ่มขึ้น 11.72% (YoY) ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศเดือนมีนาคม 2566 จำนวน 78,862 คัน (43.85% ของยอดการผลิตทั้งหมด) ส่วนยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนมีนาคม 2566 มีจำนวนทั้งสิ้น 79,943 คัน ยอดขายรถยนต์ลดลง เนื่องจากการเข้มงวดของสถาบันการเงินในการอนุมัติสินเชื่อกับผู้ซื้อรถยนต์กระบะ แต่ทั้งนี้ยังขายได้เพิ่มขึ้น 11.73% (MoM)
หมายเหตุ: ข้อมูลต่างๆ ที่ปรากฏ เป็นข้อมูลที่ได้จากแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย ซึ่งได้นำมารวบรวมและวิเคราะห์ประมวลผล ทั้งนี้ การเผยแพร่ข้อมูลเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลแก่ผู้สนใจเท่านั้น โดยสมาคมยางพาราไทย จะไม่รับผิดชอบในความเสียหายใดใดที่อาจเกิดขึ้นจากการที่มีบุคคลนำข้อมูลนี้ไปใช้ไม่ว่าโดยทางใด
|
