รายงานสถานการณ์ยางพาราประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2561
ราคาเฉลี่ยยางแผ่นรมควันชั้น 3 ณ ตลาดกลางยางพาราสงขลา เดือนกุมภาพันธ์ 2561 อยู่ที่กิโลกรัมละ 47.36 บาท ลดลงจากเดือนมกราคม 0.61 เปอร์เซ็นต์ มีปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อราคายาง ดังนี้ ราคาโดยภาพรวมปรับตัวสูงขึ้นตามความต้องการของผู้ซื้อผู้ขายภายในประเทศ และปรับตัวเพิ่มขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดล่วงหน้าต่างประเทศ ได้รับปัจจัยบวกจากปริมาณยางออกสู่ตลาดน้อย เนื่องจากอยู่ในช่วงผลัดใบ และพื้นที่กรีดยางบางพื้นที่เริ่มปิดกรีด รวมทั้งมาตรการรักษาเสถียรภาพราคายางของภาครัฐ ในช่วงต้นเดือน ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น หลังจากมีการปิดแหล่งน้ำมันในประเทศลิเบีย ซึ่งเป็นแหล่งสำคัญที่ผลิตน้ำมันดิบได้ 70,000 บาร์เรล/วัน กอปรกับเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง อย่างไรก็ตาม ในช่วงกลางเดือน ราคาน้ำมันดิ่งลงส่งผลให้ราคายางลดลงไปด้วยตามตลาดล่วงหน้าโตเกียว หลังจากอิหร่านประกาศแผนเพิ่มการผลิต กอปรกับผลผลิตน้ำมันดิบสหรัฐฯ ออกมาในปริมาณมาก ซาอุดิอาระเบียตัดสินใจจะลดปริมาณการผลิตลง นอกจากนี้ นักลงทุนกังวลเรื่องปริมาณยางในสต็อกของจีนและญี่ปุ่นที่เพิ่มสูงขึ้น มีปัจจัยบวกจากเงินเฟ้อในสหรัฐฯ นักลงทุนคลาย ความกังวลหลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุม พร้อมกับย้ำจุดยืนในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป ดัชนีราคาผู้ผลิตสำหรับภาคอุตสาหกรรมเดือนมกราคมของจีน เพิ่มขึ้น 0.3 เปอร์เซ็นต์จากเดือนก่อน และ 4.3 เปอร์เซ็นต์ yoy ในขณะที่ดัชนีราคาผู้ซื้อเพิ่มขึ้น 0.5 เปอร์เซ็นต์จากเดือนก่อน และ 5.2 เปอร์เซ็นต์ yoy
ในเดือนมกราคม ไทยส่งออกยางธรรมชาติ (รวมยางคอมปาวด์) 323,669 ตัน ลดลง 15.38 เปอร์เซ็นต์จากเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 3.52 เปอร์เซ็นต์ yoy สร้างมูลค่าการส่งออก 1.42 หมื่นล้านบาท ลดลง 18.44 เปอร์เซ็นต์จากเดือนมกราคม และ 26.87 เปอร์เซ็นต์ yoy
สำหรับภาคยางล้อ ในเดือนมกราคม ไทยผลิตยางล้อรวมทั้งสิ้น 10.72 ล้านเส้น เพิ่มขึ้น 17.11 เปอร์เซ็นต์ yoy สร้างมูลค่าการส่งออก 1.25 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 18 เปอร์เซ็นต์ yoy
|