ตลาดยาง ธันวาคม 2556

EUR       1.3743

JPY        105.16

CNY       6.0690

Oil (WTI) Feb 14 100.32             +1.00

Brent (ICE) Feb 14 112.18          +0.41

ราคายางลดลงในช่วงสัปดาห์ เนื่องจากการซื้อยางชะงักงันก่อนเข้าสู่เทศกาลปีใหม่ อุปทานจากประเทศผู้ผลิตที่ออกมาเป็นจำนวนมากสร้างความกดดันต่อราคายาง ตลาดล่วงหน้าโตเกียวปิดทำการวันที่ 28 ธ.ค. 2556 ส่วนตลาดล่วงหน้าสิงคโปร์ปิดทำการในวันสิ้นปี

การผลิต การใช้ การนำเข้า และการส่งออก

ตลาดโภคภัณฑ์ยางนานาชาติชิงเต่า รายงานว่าสต็อกยางในชิงเต่าเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเวลา 3 สัปดาห์ เป็น 282,700 ตัน จาก 276,300 ตัน ณ ปลายเดือนพฤศจิกายน ในขณะที่สต็อกยางดิบ ณ ท่าเรือญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 16.7 เปอร์เซ็นต์ เป็น 10,875 ตัน เป็นระดับสูงสุด นับตั้งแต่ 10 กรกฎาคม 2556 จากข้อมูลของสมาคมยางญี่ปุ่น

กรมศุลกากรจีนรายงานว่า ในเดือนพฤศจิกายน จีนนำเข้ายางธรรมชาติ (รวมทั้งน้ำยางข้น) 270,000 ตัน มีมูลค่า 629.8ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยรวมแล้ว ตั้งแต่ต้นปีถึงเดือนพฤศจิกายน จีนนำเข้ายางธรรมชาติทั้งสิ้น 213 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 8.2 เปอร์เซ็นต์ yoy มีมูลค่า 5.56 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลง 10.5 เปอร์เซ็นต์

คณะกรรมการยางอินเดียรายงานว่า ในเดือนพฤศจิกายน อินเดียผลิตยางธรรมชาติลดลง 7.1 เปอร์เซ็นต์ เป็น 91,000 ตัน โดยรวมแล้ว ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ (เมษายน) ถึงเดือนพฤศจิกายน อินเดียผลิตยางลดลง 11 เปอร์เซ็นต์ เป็น 517,000 ตัน เนื่องจากปริมาณน้ำฝนสูงเกินไป ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อปริมาณยางในประเทศในช่วง 4-5 เดือนข้างหน้า ในเดือนพฤศจิกายน การใช้ยางลดลง 5 เปอร์เซ็นต์ yoy เป็น 22,872 ตัน และลดลง 2.3 เปอร์เซ็นต์ในช่วงต้นปีงบประมาณถึงเดือนพฤศจิกายน เป็น 648,530 ตัน

ยางล้อ

ท่ามกลางสภาวะตลาดยานยนต์ซบเซา ผู้ผลิตยางล้อในอินเดียยังคงได้ผลกำไรดีอยู่ เนื่องจากราคาวัตถุดิบยางพาราต่ำ และมีอุปสงค์ยางล้อทดแทนมากพอสมควร ในขณะที่ความต้องการยางล้อ OE ลดลง เนื่องจากตลาดยานพาหนะซบเซา นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ราคายางจะยังคงทรงตัวอยู่ในระดับเดิม ซึ่งจะช่วยให้บริษัทยางล้อยังคงได้ผลกำไรในระดับดี เมื่อพิจารณาจากการคาดการณ์ของ Economist Intelligence Unit ว่าส่วนเกินยางธรรมชาติของโลกในปีนี้อยู่ที่ 134,000 ตัน ก็น่าจะคาดกาณ์ได้ว่า ราคายางยังคงอยู่ในระดับเดิม และจะช่วยให้บริษัทยางล้อยังอยู่ได้

ยานยนต์

สมาคมธุรกิจยุโรปรายงานว่า ยอดขายรถยนต์ในรัสเซียลดลงติดต่อกันเป็นเวลา 9 เดือนในเดือนพฤศจิกายน โดยลดลง 4 เปอร์เซ็นต์ เป็น 231,982 คัน และลดลง 8 เปอร์เซ็นต์ในเดือนตุลาคม เนื่องจากเศรษฐกิจของประเทศซบเซา ประธานสมาคมธุรกิจยุโรปคาดการณ์ว่า ยอดขายรถยนต์ในรัสเซียในสิ้นปีนี้อาจจะลดลง 6 เปอร์เซ็นต์ และจะมีเสถียรภาพมากขึ้นในปี 2557

สมาคมผู้ผลิตยานยนต์จีนรายงานว่า ยอดขายรถยนต์ในจีนเพิ่มขึ้น 16 เปอร์เซ็นต์ในเดือนพฤศจิกายน เนื่องจากยอดขายรถยนตญี่ปุ่นฟื้นตัวต่อเนื่องในจีน ซึ่งเป็นตลาดยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยยอดขายยานพาหนะโดยสารส่วนบุคคลอยู่ที่ 1.7 ล้านคัน เติบโตลดลงจาก 24 เปอร์เซ็นต์ในเดือนตุลาคม แต่กระนั้น ยอดขายในเดือนพฤศจิกายนยังคงเป็นเดือนที่มีจำนวนการซื้อมากที่สุด ยอดขายรถยนต์ญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 19.2 เปอร์เซ็นต์ ยอดขายยานพาหนะทั้งหมด (รวมทั้งรถบรรทุกและรถบัส) เพิ่มขึ้น 5.7 เปอร์เซ็นต์ เป็น 2 ล้านกว่าคัน ยอดขายยานพาหนะสัญชาติจีนเพิ่มขึ้น 5.5 เปอร์เซ็นต์ เป็น 680,000 คัน

สมาคมผู้ผลิตยานยนต์อินเดียรายงานว่า ยอดขายรถยนต์ในอินเดียลดลง 8 เปอร์เซ็นต์ในเดือนพฤศจิกายน เนื่องจากเสร็จสิ้นเทศกาลวันหยุดยาวในเดือนตุลาคม และสภาวะตลาดซบเซาทำให้ผู้บริโภคชะลอการซื้อออกไปก่อน และคาดว่าจะมีการฟื้นตัว ก็ต่อเมื่อการเลือกตั้งรัฐบาลชุดใหม่เสร็จสิ้นในปีหน้า ในบรรดาผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ พบว่ายอดขายของทาทา มอเตอร์ตกต่ำมากถึง 42 เปอร์เซ็นต์ เหลือ 7,910 คัน

IHS Automotive คาดว่ายอดขายรถยนต์ของโลกในปี 2557 จะอยู่ที่ 85 ล้านคัน โดยจะแตะระดับ 100 ล้านคันในปี 2561 เนื่องจากชนชั้นกลางในตลาดเกิดใหม่เพิ่มจำนวนมากขึ้น กอปรกับราคาน้ำมันไม่สูงมากนัก ตลาดยานยนต์ในสหรัฐฯจะขยายตัว 2.4 เปอร์เซ็นต์เป็น 16.03 ล้านคันในปีนี้ และจะแตะระดับสูงสุดที่ 17 ล้านคันในปี 2560 คาดว่าผลผลิตรถยนต์ในอเมริกาเหนือจะเพิ่มขึ้นเป็น 2.1 ล้านคันในช่วงปีนี้ถึงปี 2563 เนื่องจากมีโรงงานเกิดขึ้นใหม่ในสหรัฐฯ และเม็กซิโก

Cheng Shin Rubber บริษัทยางล้อของไต้หวันมีแผนลงทุน 320 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อสร้างโรงงานยางล้อรถยนต์และรถจักยานยนต์ในเมือง Karawong ประเทศอินโดนีเซีย โดยจะแล้วเสร็จในครึ่งหลังปี 2558 โรงงานแห่งนี้จะเป็นโรงงานแห่งที่สามของ Cheng Shin ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยอีก 2 แห่งอยู่ในประเทศไทยและเวียดนาม เพื่อตอบสนองความต้องการในตลาดที่กำลังเติบโตอย่างอินโดนีเซีย

ในเดือนพฤศจิกายน ความต้องการรถยนต์ใหม่ในสหภาพยุโรปเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเวลาสามเดือน (+1.2 เปอร์เซ็นต์ yoy) อยู่ที่ 938,021 คัน โดยตลาดรถยนต์ในสหราชอาณาจักรเติบโต 7 เปอร์เซ็นต์และสเปนเติบโต 15.1 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่ยอดขายในประเทศอื่นๆ หดตัว โดยรวมแล้ว ตั้งแต่ต้นปีถึงเดือนพฤศจิกายน  การลงทะเบียนซื้อรถยนต์ใหม่ในสหภาพยุโรปอยู่ที่ 10,945,360 คัน ลดลง 2.7 เปอร์เซ็นต์ yoy