สมาคมยางพาราไทย
ได้กำหนดจัดงานเลี้ยงประจำปี 2561
เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2561 ณ
โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ และจัดการแข่งขันกอล์ฟในวันเดียวกัน ณ
สนามบางกอก กอล์ฟคลับ จังหวัดปทุมธานี โอกาสนี้สมาคมฯ
ได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมการฝ่ายเทคนิคเรื่องสัญญาการค้าครั้งที่ 21
ของสภาธุรกิจยางอาเซียน ในวันที่ 12 พฤษภาคม 2561 ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์
การจัดงานเลี้ยงประจำปีครั้งนี้มีแขกผู้สนใจ นักธุรกิจ ผู้เกี่ยวข้องในวงการยางภาครัฐและเอกชนทั้งภายในประเทศและต่างประเทศเข้าร่วมงานกว่า
1,000 ท่าน และได้รับเกียรติเป็นอย่างสูงจากนายกฤษฎา บุญราช
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการเข้าร่วมงานและกล่าวสุนทรพจน์
โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้
ยางพารานับว่าเป็นผลิตผลทางการเกษตรที่สำคัญยิ่งของประเทศไทยและของโลก
นับตั้งแต่ปี 2534
ประเทศไทยได้เลื่อนฐานะเป็นผู้ผลิตและส่งออกยางอันดับหนึ่งของโลก ในปี 2560
ประเทศไทยผลิตยางทั้งสิ้น 4.42 ล้านตัน ส่งออก 4.09 ล้านตัน
นำรายได้เข้าประเทศกว่า 280,000 ล้านบาท
โดยปีที่ผ่านมาเป็นปีที่ท้าทายอย่างมากในอุตสาหกรรมยาง
ราคายางลดลงอย่างรุนแรงแตะระดับต่ำสุดในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2560 ที่กิโลกรัมละ
44.49 บาท ในทิศทางเดียวกับค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น
แต่สวนทางกับเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวชัดเจนและกระจายตัวมากขึ้น และราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างชัดเจนในช่วงครึ่งหลังของปี
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ได้มอบหมายให้การยางแห่งประเทศไทย
จัดทำโครงการแก้ไขปัญหาราคายางพาราตกต่ำเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรชาวสวนยาง
เช่น ส่งเสริมการใช้ยางของหน่วยงานภาครัฐ เพื่อดูดซับปริมาณยางออกจากตลาด
สนับสนุนสินเชื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนแก่ผู้ประกอบกิจการยางพารา แปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่า
ฯลฯ
ส่วนการแก้ไขปัญหาราคายางตกต่ำภายใต้กรอบความร่วมมือสภาไตรภาคียางระหว่างประเทศ
(ITRC)
ได้แก่ ไทย อินโดนีเซียและมาเลเซีย ITRC ในคราวประชุมเมื่อเดือนมีนาคม
2561 ไทยได้ร่วมหารือเรื่องความร่วมมือเพื่อสร้างเสถียรภาพราคาและพัฒนาอาชีพการทำสวนยางตลอดจนอุตสาหกรรมยางให้มีความมั่นคงและยั่งยืน
โดยมีประเด็นสำคัญคือการติดตามมาตรการชะลอการส่งออก (AETS ) ของประเทศผู้ผลิตในไทย
มาเลเซียและอินโดนีเซีย รวมทั้งได้จัดประชุมเอกอัครราชทูต 4 ประเทศได้แก่ ไทย
มาเลเซีย อินโดนีเซียและเวียดนาม เพื่อหารือถึงมาตรการจัดการผลิตยางพาราดังนี้
1.ไทยกำลังจัดตั้งบริษัทร่วมทุนระหว่างการยางแห่งประเทศไทยกับสมาพันธ์ชาวสวนยางทั่วประเทศเพื่อรวบรวมยางแผ่นรมควัน
(RSS) ยางแท่ง (Block Rubber) ยางคอมปาวด์
(Compound Rubber) และน้ำยางข้น (Concentrated latex)
และจัดจำหน่าย 2.มาตรการบริหารจัดการการผลิต
โดยไทยมีนโยบายลดพื้นที่ปลูกยางในพื้นที่ไม่เหมาะสมด้วยการโค่นยางเพื่อไปปลูกพืชอื่น
3.มาตรการการปลูกยางพาราร่วมกับพืชเศรษฐกิจอื่น รณรงค์ให้หน่วยงานภาครัฐ
เพิ่มปริมาณการใช้ยางพาราในประเทศสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในรูปแบบต่าง ๆ อาทิ สระน้ำ
ยางปูพื้น ถนนยางพารา 4. มาตรการหยุดกรีด
โดยให้พื้นที่ปลูกยางในหน่วยงานภาครัฐหยุดกรีดยาง 3 ล้านไร่ เป็นระยะเวลา 3 เดือน
ตั้งแต่พฤษภาคมถึงกรกฎาคม และหยุดกรีดยางทุกไร่ โดยให้กรีดแบบวันเว้นวัน และ5.
มาตรการควบคุมการผลิต-ราคายางพารา ที่ปัจจุบันยางพาราของประเทศไทยเป็นสินค้าควบคุม
โดยกระทรวงพาณิชย์จะเข้ามาดูกลไกราคายางพารา
ความร่วมมือที่เข้มแข็งและการประสานงานอย่างใกล้ชิดของประเทศต่างๆ
จะนำมาซึ่งการบรรลุเป้าหมายหลักคือราคาที่ยุติธรรมและมีเสถียรภาพเพื่อก่อให้เกิดประโยชน์อันสูงสุดกับทุกฝ่าย
การจัดงานเลี้ยงประจำปี
2561 ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากภาครัฐและภาคเอกชนทั้งในประเทศและต่างประเทศ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งความร่วมมือร่วมใจอย่างดีเยี่ยมจากคณะกรรมการบริหารสมาชิกและทีมเจ้าหน้าที่สมาคม ในนามสมาคมยางพาราไทย
กระผมขอขอบคุณทุกท่านเป็นอย่างสูง และคาดหวังว่ากิจกรรมดังกล่าวจะเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างผู้ผลิตและผู้ใช้ยางให้แน่นแฟ้นยิ่งๆ
ขึ้นไป