สภาธุรกิจยางอาเซียน
(ASEAN
Rubber Business Council) ก่อตั้งขึ้นภายใต้ชื่อ
ชมรมธุรกิจยางอาเซียน (ASEAN Rubber Business Club) เมื่อปี
2535 ณ ประเทศอินโดนีเซีย โดยมีสมาชิกผู้ก่อตั้งคือ สมาคมการค้ายางอินโดนีเซีย
มาเลเซีย สิงคโปร์ และประเทศไทย
เพื่อแลกเปลี่ยนทัศนะของสมาชิกเกี่ยวกับธุรกิจยางและระบบการค้า ต่อมาในปี 2548
ได้เปลี่ยนชื่อเป็นสภาธุรกิจยางอาเซียน ปัจจุบันประกอบด้วยสมาชิกสมาคมยาง 6
ประเทศได้แก่ ไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ เวียดนามและกัมพูชา
โดยมีสำนักงานกองเลขาธิการตั้งอยู่ที่ประเทศมาเลเซีย
วัตถุประสงค์หลักของสภาธุรกิจยางอาเซียนคือ
1)ส่งเสริมด้านการผลิตและการค้าของประเทศสมาชิก
2)ประสานความร่วมมือด้านการค้ายางของประเทศสมาชิกและประเทศผู้ใช้ยางธรรมชาติ
เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในด้านคุณภาพ และราคา
3)ประสานความร่วมมือด้านกฎเกณฑ์การซื้อขายยางและสัญญาซื้อขายยางกับสมาคมยางระหว่างประเทศ
4)ประสานความร่วมมือด้านคุณภาพ มาตรฐานยางกับองค์กรระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง
5)สนับสนุนข้อมูลด้านวิชาการยางระหว่างประเทศสมาชิกและสนับสนุนข้อมูลแก่องค์กรระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง
6)สนับสนุนและช่วยเหลือประเทศสมาชิก แก้ไขอุปสรรค ข้อขัดข้องต่างๆ
รวมทั้งเจรจาทำความตกลงกับบุคคลภายนอก เพื่อประโยชน์ร่วมกันในการค้ายาง และ
7)ประนีประนอมข้อพิพาทระหว่างประเทศสมาชิก
หรือระหว่างประเทศสมาชิกกับบุคคลภายนอกในการประกอบการค้าและส่งออกยางพารา
สภาธุรกิจยางอาเซียนมีบทบาทสำคัญในการค้ายางระดับโลก
โดยมีกิจกรรมการประชุมสมัชชาปีละ 2 ครั้ง ซึ่งการประชุมครั้งล่าสุด
สมาคมยางอินโดนีเซียเป็นเจ้าภาพในการจัดประชุมสมัชชาสภาธุรกิจยางอาเซียนครั้งที่
24 และการประชุมคณะกรรมการฝ่ายเทคนิคเรื่องสัญญาการค้าครั้งที่ 22 ในวันที่ 4
สิงหาคม 2561 ณ โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท บาหลี ประเทศอินโดนีเซีย
ในช่วงเดียวกับงานเลี้ยงประจำปีสมาคมยางอินโดนีเซียซึ่งจัดในวันที่ 3 สิงหาคม 2561
โดยนายศุภเดช อ่องสกุล รองเลขาธิการสมาคมยางพาราไทย รับหน้าที่เป็นประธานการประชุม
แทนนายกสมาคมฯ และนางสาวปิยภรณ์ แซ่ลิ่ม ผู้จัดการสมาคมฯ เข้าร่วมประชุม
ในโอกาสเปิดการประชุม
นายศุภเดช อ่องสกุล รองเลขาธิการสมาคมยางพาราไทย ได้กล่าวถึงสถานการณ์ยางว่า
ความต้องการยางชะลอตัว จากยอดขายยางล้อและยานพาหนะในจีนลดลง
ระหว่างที่ยอดขายในสหภาพยุโรปเติบโตดีขึ้นในเดือนมิถุนายน
นอกจากนี้สต็อกยางเพิ่มมากขึ้นในประเทศญี่ปุ่นและจีน
ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงในเดือนกรกฎาคมส่งผลให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ชะลอตัว กอปรกับสงครามการค้าอย่างรุนแรงระหว่างประเทศจีนและสหรัฐอเมริกา
อย่างไรก็ตามมีปัจจัยบวกที่สนับสนุนราคายาง คือรัฐบาลจีนมีนโยบายผ่อนคลายทางการเงิน
ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นความต้องการใช้ยางมากขึ้น
การประชุมสภาธุรกิจยางอาเซียนครั้งที่
24 มีประเด็นสำคัญดังนี้ 1)
สมาคมยางอินโดนีเซียยินดีรับตำแหน่งประธานและกองเลขานุการสมาคมยางนานาชาติ
ในวาระปี 2562-2563 2) ข้อเสนอแก้ไขสัญญาการค้ายางแท่ง(IRA Contract
for TSR) และข้อเสนอแก้ไขสัญญาการค้าน้ำยางข้น(IRA Contract
for Latex in Drums) อยู่ระหว่างการรวบรวมความคิดเห็นจากคณะอนุกรรมการฝ่ายเทคนิค
สมาคมยางนานาชาติ เพื่อพิจารณาในการประชุมคณะกรรมการฝ่ายเทคนิคเรื่องสัญญาการค้าครั้งต่อไป
และ 3) ความยั่งยืนในการพัฒนาอุตสาหกรรมยางพารา ซึ่งริเริ่มจากผู้ผลิตยางล้อรถยนต์
และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย โดยมีวัตถุประสงค์คือ ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ความรับผิดชอบต่อสังคม คุณภาพชีวิตและความอยู่รอดทางเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ที่ประชุมได้กำหนดจัดการประชุมคณะกรรมการฝ่ายเทคนิคเรื่องสัญญาการค้าครั้งที่
23 และประชุมคณะกรรมการฝ่ายเศรษฐกิจและสถิติครั้งที่ 21
โดยตลาดโภคภัณฑ์ยางมาเลเซีย เป็นเจ้าภาพ ในวันที่ 6 ตุลาคม 2561 ณ โรงแรมอิสทาน่า
กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย
ในช่วงเดียวกับงานเลี้ยงประจำปีตลาดโภคภัณฑ์ยางมาเลเซีย
จากข้อมูลข้างต้น
ประมวลได้ว่าสภาธุรกิจยางอาเซียนมีบทบาทสำคัญในการประสานความร่วมมืออย่างเข้มแข็งระหว่างประเทศผู้ผลิต
และมีส่วนช่วยพัฒนาอุตสาหกรรมยางธรรมชาติให้ก้าวหน้าอย่างยั่งยืนต่อไป