สมาคมยางนานาชาติก่อตั้งขึ้นที่เมืองออตตาวา
ประเทศแคนาดา เมื่อปี 2514 ด้วยความร่วมมือของสมาคมการค้าจากประเทศผู้ผลิตและผู้ใช้ยางพารา
มีสมาชิกทั้งหมด 20 องค์กร จาก 13
ประเทศ โดยสมาคมยางพาราไทยเป็นหนึ่งในสมาชิกแรกเริ่ม
และเป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริหารซึ่งประกอบด้วย 9 สมาคมการค้า
จากประเทศผู้ผลิตยาง 4 สมาคม และประเทศผู้ใช้ยาง 5 สมาคม
มีวาระการบริหารงาน 2 ปี
วัตถุประสงค์หลักของสมาคมยางนานาชาติคือ การกำหนดกฎเกณฑ์ทางด้านการค้ายาง
การจัดทำสัญญาซื้อขายยางระหว่างประเทศด้วยความเป็นธรรม
ประสานความร่วมมือด้านการผลิต การค้า และการใช้ยางธรรมชาติระหว่างประเทศผู้ผลิตยางและประเทศผู้ใช้ยาง
และการแก้ปัญหาธุรกิจยาง รวมทั้งการพัฒนาการค้ายางอย่างเป็นธรรม
สมาคมยางนานาชาติได้รับการยอมรับว่ามีบทบาทสำคัญในการค้ายางระดับโลก
ปัจจุบันสำนักงานกองเลขานุการสมาคมยางนานาชาติ ตั้งอยู่ที่สมาคมยางพาราไทย
สมาคมยางนานาชาติมีการจัดประชุมคณะกรรมการบริหารทุกปี
และการประชุมใหญ่สามัญประจำ 2 ปี ในปี 2558 นายสุเมธ
สินเจริญกุล รองประธานบริษัทศรีตรังแอโกรอินดัสทรี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
พร้อมด้วย นายศุภเดช อ่องสกุล รองเลขาธิการสมาคมยางพาราไทย ดร.ไพฑูรย์
วงศาสุทธิกุล รองเลขาธิการสมาคมยางพาราไทย นางสาวปิยภรณ์ แซ่ลิ่ม ผู้จัดการสมาคมฯ
นายประสิทธิ์ เพชรหนูเสด และนายภูมิเมธ จันทวดี เจ้าหน้าที่สมาคมฯ
ได้เข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการบริหารและประชุมใหญ่สามัญประจำ 2 ปี ในวันที่ 22 มีนาคม 2558 ณ
โรงแรม เพนินซูลา เอ็กเซลซิเออร์ ประเทศสิงคโปร์ โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมจากตลาดโภคภัณฑ์ยางมาเลเซีย
(MRE) ตลาดแลกเปลี่ยนสิงคโปร์ (SGX SICOM) สมาคมยางยุโรป (RTAE) สมาคมยางญี่ปุ่น (RTAJ) สมาคมยางสิงคโปร์ (RTAS) และสมาคมยางเวียดนาม (VRA) ที่ประชุมใหญ่สามัญประจำ
2 ปี ได้เลือกตั้งคณะกรรมการบริหารชุดใหม่
โดยมีมติให้คงคณะกรรมการบริหารชุดเดิมไว้ และแต่งตั้งนายสุเมธ สินเจริญกุล
ดำรงตำแหน่งประธานสมาคมยางนานาชาติ Mr. Howard A. Evans ดำรงตำแหน่งรองประธาน
และนายศุภเดช อ่องสกุล รับตำแหน่งเลขานุการบริหาร ต่ออีก 1 วาระ ประจำปี 2558-2559
ในโอกาสเปิดการประชุมใหญ่สามัญประจำ
2
ปี นายสุเมธ สินเจริญกุล ประธานสมาคมยางนานาชาติ
ได้กล่าวถึงสถานการณ์ยางว่า ปี 2557
เป็นปีที่ถือว่าท้าทายมากที่สุดต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอุตสาหกรรมยาง
โดยในเดือนมีนาคม 2558 วันนี้ (22 มีนาคม 2558) ราคายางแท่ง TSR20 อยู่ที่ 1.43 ดอลลาร์ต่อกิโลกรัม เมื่อเทียบกับเดือนมกราคม ปี 2557
ราคาอยู่ที่ 2.27 ดอลลาร์ต่อกิโลกรัม ลดลง 37 เปอร์เซ็นต์ในช่วงระยะเวลา 15 เดือน
เป็นไปในทิศทางเดียวกับสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ โดยเฉพาะน้ำมัน อย่างไรก็ตาม
ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอุตสาหกรรมยางและน้ำมันมีความแตกต่างกัน กล่าวคือ
เจ้าของสวนยางเป็นเกษตรกรรายย่อย ในขณะที่เจ้าของธุรกิจน้ำมันเป็นบริษัทข้ามชาติ
การที่ราคายางตกต่ำเช่นนี้
ย่อมทำให้ชาวสวนยางในทุกภูมิภาคของโลกได้รับผลกระทบอย่างหนัก และผู้ใช้ยาง
โดยเฉพาะผู้ผลิตยางล้อก็ไม่ได้รับผลประโยชน์มากเท่าไรนักในระยะยาว
ถึงเวลาแล้วที่ภาคเอกชนไม่ว่าจะเป็นผู้ผลิต ผู้แปรรูป ผู้ค้า หรือผู้ใช้
ต้องริเริ่มส่งเสริมราคายางให้เข้าสู่ระดับสมดุลและยั่งยืน
เนื่องจากราคาในปัจจุบันไม่กระตุ้นเศรษฐกิจ
ทำให้หลายภาคส่วนได้รับแรงกดดันให้เปลี่ยนสายอาชีพ
ส่งผลให้อุตสาหกรรมยางขาดความสามารถในการแข่งขัน อย่างไรก็ตาม
การสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ ของสมาคมยางนานาชาติ ด้วยความร่วมมือร่วมใจของสมาชิก
จะทำให้อุตสาหกรรมยางผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปได้
การประชุมสมาคมยางนานาชาติ
นับว่าประสบความสำเร็จอย่างดีเยี่ยม
ได้รับคำชื่นชมเป็นอย่างมากจากคณะกรรมการบริหารสมาคมยางนานาชาติ
ในนามสมาคมยางพาราไทย ผมขอขอบคุณนายสุเมธ สินเจริญกุล ประธานสมาคมยางนานาชาติ
และนายศุภเดช อ่องสกุล เลขานุการบริหารสมาคมยางนานาชาติ
ตลอดจนกองเลขานุการสมาคมยางพาราไทย ในการดำเนินการจัดการประชุมเป็นที่เรียบร้อย
ผมคาดหวังว่าสมาคมยางนานาชาติจะมีบทบาทสำคัญในการประสานความร่วมมือระหว่างสมาคมการค้ายางจากประเทศผู้ผลิตและผู้ใช้ยาง
เพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรมยางโลกให้ก้าวหน้าอย่างยั่งยืนต่อไป