พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ได้พัฒนาหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อให้ชาวไทยได้เข้าถึงทางสายกลางของชีวิตและเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน เป็นพื้นฐานของการดำรงชีวิตซึ่งอยู่ระหว่าง สังคมระดับท้องถิ่นและระดับสากล เพื่อรักษาความมั่นคงและเสถียรภาพ และยืนหยัดในการไม่พึ่งพาผู้อื่น

If you want to buy uk luxury replica tag heuer watches, you'd better choose perfect fake TAG Heuer watches online.

Hot replica watches for sale uk like Rolex, Omega, Breitling, Cartier and etc. are available on this web.

      การพัฒนาตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง เป็นการพัฒนาที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของทางสายกลางและความไม่ประมาท โดยคำนึงถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล และการสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว ตลอดจนการใช้ความรู้ ความรอบคอบและคุณธรรมประกอบการวางแผน การตัดสินใจและการกระทำต่างๆ ความพอประมาณ หมายถึง ความพอดี ที่ไม่มากและไม่น้อยจนเกินไป ไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น เช่น การผลิตและการบริโภคที่พอประมาณ ความมีเหตุผล หมายถึง การใช้หลักเหตุผลในการตัดสินใจเรื่องต่างๆ โดยพิจารณาจากเหตุปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนผลที่คาดว่าจะเกิดขึ้นอย่างรอบคอบ การมีภูมิคุ้มกันที่ดี หมายถึง การเตรียมตัวให้พร้อมรับต่อผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงรอบตัว ปัจจัยเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้นั้น จะต้องอาศัยความรู้ และคุณธรรม เป็นเงื่อนไขพื้นฐาน กล่าวคือ เงื่อนไขความรู้ หมายถึง ความรอบรู้ ความรอบคอบ และความระมัดระวังในการดำเนินชีวิตและการประกอบการงาน ส่วนเงื่อนไขคุณธรรม คือ การยึดถือคุณธรรมต่างๆ อาทิ ความซื่อสัตย์สุจริต ความอดทน ความเพียร การมุ่งต่อประโยชน์ส่วนรวมและการแบ่งปัน ฯลฯ

      ในส่วนของยางพารา รัฐบาลต้องเร่งผลักดันนโยบายหรือมาตรการอย่างจริงจังให้มากขึ้นเพื่อสร้างเสถียรภาพราคายาง และให้เป็นไปตามกลไกของตลาด และภาครัฐต้องส่งเสริมการใช้วัตถุดิบยางพาราในการแปรรูปผลิตภัณฑ์ยาง เช่น ล้อยาง ถุงมือยาง ถุงมือแพทย์ เป็นต้น เพื่อใช้ในประเทศให้มากขึ้น แทนการนำเข้าสินค้าสำเร็จรูปจากต่างประเทศ ซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์และแก้ปัญหาความผันผวนของราคายางในประเทศไทยได้อีกด้วย นอกจากนี้ควรประชาสัมพันธ์และขยายผลการใช้ยางธรรมชาติไปยังประเทศผู้ใช้ยางโลก เพื่อเพิ่มสัดส่วนการใช้ยางธรรมชาติทดแทนยางสังเคราะห์ โดยเน้นจุดขายความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

      ในขณะนี้ ราคาจำหน่ายที่เกษตรกรขายได้ประมาณกิโลกรัมละ 80-90 บาท และมีแนวโน้มผันผวนตามกลไกตลาดและภาวะเศรษฐกิจโลก  ดังนั้นเกษตรกรควรเก็บออมและวางแผนการใช้เงินอย่างเป็นระบบ  โดยน้อมนำแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาใช้ในการดำเนินชีวิตและประกอบอาชีพก็จะเป็นหนทางรอดอย่างยั่งยืน นอกจากนี้เกษตรกรควรปลูกสวนยางร่วมกับพืชแซม หรือร่วมกับการทำนา  การเลี้ยงสัตว์  เพื่อความมั่นคงทางอาหาร และตอบสนองการดำรงชีพตามปัจจัย  4  นั่นคือ ใช้เป็นอาหาร ใช้เป็นยาสมุนไพร พลังงาน ไม้ใช้สอยสร้างบ้านเรือน เพื่อให้เกิดประโยชน์หลายอย่างแบบต่อเนื่อง และเป็นการประยุกต์การทำการเกษตรในแนวทางทฤษฏีใหม่ตามพระราชดำริ อีกทางหนึ่ง

      สมาคมยางพาราไทยขอสนับสนุนให้ชาวสวนยางพารา และผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน  ได้น้อมนำแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาประยุกต์ใช้ เพื่อนำมาซึ่งความสุข และการพัฒนาอุตสาหกรรมยางไทยอย่างยั่งยืนตลอดไป