E-Magazine facebook
สาส์นจากนายกสมาคม TRA PRESIDENT VIEW
     
  history  
 
     
     บทวิเคราะห์สถานการณ์ยางพารา  ธันวาคม 2562 [เลือกปีปัจจุบัน]      
    
**กรุณาใช้ Adobe Acrobat Reader ในการอ่านไฟล์   
 

 รายงานสถานการณ์ยางธรรมชาติ ประจำเดือนธันวาคม 2562

ราคาเฉลี่ยยางแผ่นรมควันชั้น 3 ณ ตลาดกลางยางพาราสงขลา เดือนธันวาคม 2562 อยู่ที่กิโลกรัมละ 42.47 เพิ่มขึ้น (+5.07%) จาก 40.42 บาท/กิโลกรัมในเดือนพฤศจิกายน 2562

ในเดือนธันวาคมราคายางยังคงทรงตัวและมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ในขณะเดียวกันตลาดล่วงหน้าต่างประเทศมีการปรับตัวในทิศทางบวกเล็กน้อยเช่นกัน สถานการณ์ยางพารายังคงชะลอตัวในทิศทางเดียวกับการเติบโตของเศรษฐกิจโลกจากปัจจัยด้านสภาวะเศรษฐกิจ และยังได้รับผลกระทบจากปัจจัยด้านผลผลิตและความต้องการใช้ยางธรรมชาติ เช่น ปัญหาการระบาดของโรคใบร่วงจากเชื้อราในวงกว้าง โดยอินโดนีเซียได้รับผลกระทบ 2.38 ล้านไร่ ไทย 325,000 ไร่ และมาเลเซีย 31,250 ไร่ พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบรุนแรงจะทำให้ผลผลิตลดลง 70-90 % ส่วนพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบปานกลางจะทำให้ผลผลิตลดลง 30-50 % ประเทศสมาชิก ITRC คาดว่าผลผลิตในปี 2563 จะลดลงกว่า 800,000 ตัน เนื่องจากปัจจัยดังกล่าว ทางด้าน The Economist Intelligence Unit คาดการณ์ว่าการผลิตยางธรรมชาติของโลกจะเติบโตในอัตราชะลอตัวที่ 1 เปอร์เซ็นต์ในปี 2562-2563 เนื่องจากมีสต็อกยางสะสมในปริมาณมาก และราคายางไม่จูงใจต่อการผลิต ส่วนความต้องการใช้ยางธรรมชาติของโลกจะเติบโตในอัตราชะลอตัวเช่นกัน ที่ 2.6 เปอร์เซ็นต์ในปี 2562-2563 ลดลงจากระดับ 4.5 เปอร์เซ็นต์ในปี 2561 เนื่องจากความต้องการซื้อยานพาหนะลดลงกอปรกับอัตราแลกเปลี่ยนและราคาน้ำมันมีความผันผวน
การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ได้มีการส่งเสริมให้เกษตรกรชาวสวนยาง รวมกลุ่มกันในรูปแบบสถาบันเกษตรกร เพื่อแปรรูปผลิตภัณฑ์ยางพารา เพิ่มมูลค่า และยังมีมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยาง และสถาบันเกษตรกร ในการหาพื้นที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์ยางพารา ภายใต้โครงการ "จุดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยางพาราพัฒนาเกษตรกรไทย” ปีที่ 3 เพื่อเป็นการส่งเสริมให้มีการใช้ยางพาราในประเทศเพิ่มขึ้น เป็นการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยางพารา
สำหรับประเทศไทย คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.25% ต่อปี (ข้อมูล ณ วันที่ 18 ธันวาคม 2562) เหตุเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าระดับศักยภาพและต่ำกว่าที่ประมาณการไว้เดิม จากภาคการส่งออกสินค้าที่หดตัวลง รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างในภาคการผลิตที่มีผลต่อความสามารถในการแข่งขันของภาคการส่งออก ภาครัฐได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อสร้างความเข้มแข็งทั้งภายในและต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนโยบายสำคัญ เช่น การลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ “อีอีซี” ที่ต้องการความชัดเจนและต่อเนื่อง เพื่อสร้างโอกาสการค้าและการลงทุนให้มากขึ้น ในขณะเดียวกันสงครามการค้าระหว่างประเทศสหรัฐอเมริกาและจีน ยังเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด เนื่องจากจะส่งผลกระทบด้านการส่งออกของไทยไปยังประเทศสหรัฐอเมริกาและจีน ทั้งนี้ผู้ประกอบการจะต้องติดตามข่าวสารและปรับตัวอย่างรวดเร็ว
สำหรับดัชนี PMI ภาคการผลิตจากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ปรับตัวลงสู่ระดับ 48.1 ในเดือนพฤศจิกายน จากระดับ 48.3 ในเดือนตุลาคม และดัชนี PMI สำหรับภาคการผลิตในประเทศไทยเพิ่มขึ้นจาก 49.3 ในเดือนพฤศจิกายน มาอยู่ที่ 50.1 ในเดือนธันวาคม และสำหรับไตรมาสที่ 4 ค่า PMI เฉลี่ยที่ระดับ 49.8 ซึ่งผลการดำเนินงานของภาคการผลิตยังซบเซาเป็นส่วนใหญ่ และในส่วนของด้านน้ำมันนั้น โอเปกและพันธมิตรจะตกลงปรับลดกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม นายอเล็กซานเดอร์ โนวัค รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของรัสเซีย เผยว่า โอเปกและพันธมิตรอาจพิจารณายุติมาตรการลดกำลังการผลิตภายในปี 2563 นี้ เพราะมองว่าความต้องการใช้อาจปรับเพิ่มขึ้นและทำให้ตลาดน้ำมันเข้าสู่สมดุลอีกครั้ง ทั้งยังมองว่าโอเปกและพันธมิตรควรพิจารณาเรื่องการรักษาส่วนแบ่งการตลาดไว้ด้วย ราคาน้ำมันดิบขยับขึ้นต่อเนื่อง หลังสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) ประกาศตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังสิ้นสุด ณ วันที่ 20 ธ.ค. ปรับลดลง 5.5 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 441.1 ล้านบาร์เรล โดยสาเหตุหลักมาจากการที่โรงกลั่นในประเทศปรับเพิ่มกำลังผลิตขึ้นราว 418,000 บาร์เรล
ในเดือนพฤศจิกายน ไทยส่งออกยางรวมทั้งสิ้น 416,121.82 ตัน เพิ่มขึ้น 14.07 เปอร์เซ็นต์จากเดือนตุลาคม และลดลง 11.13 เปอร์เซ็นต์ yoy สร้างมูลค่าการส่งออก 1.62 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.04 เปอร์เซ็นต์จากเดือนตุลาคม และลดลง 16.59 เปอร์เซ็นต์ yoy โดยรวมแล้ว ในช่วง 11 เดือนสะสมที่ผ่านมานี้ ไทยส่งออกยางทั้งสิ้น 4,097,612.71 ตัน ลดลง 12.55 เปอร์เซ็นต์ yoy สร้างมูลค่าการส่งออกรวม 1.73 แสนล้านบาท ลดลง 16.15 เปอร์เซ็นต์ yoy
สำหรับภาคยางล้อ ในเดือนพฤศจิกายน ไทยส่งออกยางล้อรวมทั้งสิ้น 11.42 ล้านเส้น เพิ่มขึ้น 1.84 เปอร์เซ็นต์ yoy สร้างมูลค่าการส่งออก 1.42 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.37 เปอร์เซ็นต์ yoy โดยรวมแล้ว ในช่วง 11 เดือนสะสมที่ผ่านมานี้ ไทยส่งออกยางล้อรวม 123.82 ล้านเส้น เพิ่มขึ้น 3.01 เปอร์เซ็นต์ yoy สร้างมูลค่าการส่งออกรวม 1.6 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.66 เปอร์เซ็นต์ yoy

 
 
 
 
     
 
 
 

 

เลือกปี  
prev มกราคม | กุมภาพันธ์ | มีนาคม | เมษายน | พฤษภาคม | มิถุนายน | กรกฏาคม | สิงหาคม | กันยายน | ตุลาคม | พฤศจิกายน | ธันวาคม next

 
     
 

 

หน้าหลัก  |  รายชื่อสมาชิก  |  ข่าวสาร  |  กิจกรรม  |  ราคายาง  |  สถานการณ์ยางพารา  |  สถิติยางพารา  |  คุยกันเรื่องยาง  |  เชื่อมโยงเว็บไซต์  |  ติดต่อสอบถาม

สมาคมยางพาราไทย  45, 47 ถนนโชติวิทยะกุล 3 อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา 90110
โทรศัพท์  074-429011-2 , 074-429311     โทรสาร  074-429312     E-mail:  tra@thairubber.org

 

©Copyright 2007. All Rights Reserved. Developed by ME-FI dot com