ข้อ 7. สมาชิกแบ่งออกเป็นสี่ประเภท ดังนี้
(1) สมาชิกสามัญ ได้แก่ นิติบุคคลหรือรัฐวิสาหกิจที่ประกอบกิจการโรงงานผลิตและส่งออกยางพารา ซึ่งมีกำลังผลิตไม่น้อยกว่า 1,000ตัน/เดือน มีสิทธิ์ออกเสียงลงคะแนนในการเลือกตั้งคณะกรรมการ โดยต้องเป็นสมาชิกวิสามัญมาแล้วไม่น้อยกว่าสี่ปี ทั้งนี้เว้นแต่เป็นสมาชิกสามัญเดิม
(2) สมาชิกวิสามัญ ได้แก่ นิติบุคคลหรือรัฐวิสาหกิจที่ประกอบกิจการโรงงานผลิตและหรือส่งออกยางพารา ไม่น้อยกว่า 1,000 ตัน/เดือนแต่ไม่มีสิทธิ์ออกเสียงลงคะแนนในการเลือกตั้งคณะกรรมการ
(3) สมาชิกสมทบ ได้แก่ เกษตรกร ผู้ประกอบกิจการโรงานผลิต ผู้ประกอบการค้า และผู้ส่งออกยางพารา แต่ไม่มีสิทธิ์ออกเสียงลงคะแนนในการเลือกตั้งคณะกรรมการ
(4) สมาชิกกิตติมศักดิ์ ได้แก่นายกกิตติมศักดิ์ ผู้ทรงเกียรติซึ่งมีความสนใจในการค้ายางพารา หรือผู้เชี่ยวชาญในกิจการยางพารา หรือ องค์กรยางพาราทั้งภาครัฐและเอกชน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งคณะกรรมการมีมติเป็นเอกฉันท์ให้เชิญเป็นสมาชิก
ข้อ 8. ผู้ประสงค์จะสมัครเป็นสมาชิกสามัญและ สมาชิกวิสามัญ สมาชิกสมทบ จะต้องยื่นใบสมัครตามแบบของ สมาคมต่อเลขาธิการ โดยมี อย่างน้อย 2 บริษัทรับรอง และให้เลขาธิการเสนอใบสมัครต่อคณะกรรมการในการประชุม ครั้งแรกหลังจากได้รับใบสมัครดังกล่าว
การรับผู้สมัครเข้าเป็นสมาชิกนั้นให้เป็นไปตามมติของคณะกรรมการ ซึ่งจะลงมติโดยวิธีลงคะแนนลับและ มีคะแนนเสียงสนับสนุน ไม่น้อยกว่าสองในสามของจำนวนกรรมการที่เข้าประชุม
ข้อ 9. ในการเป็นสมาชิกของสมาคม
(1) สมาชิกสามัญ จะต้องชำระชำระค่าบำรุงรายปีแก่สมาคมเป็นเงินจำนวนสองหมื่นบาท (20,000.-บาท) ภายในสามสิบวัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งเป็นหนังสือจากเลขาธิการ
ผู้สมัครเป็นสมาชิกสามัญจะได้สิทธิแห่งสมาชิกภาพเมื่อได้ ชำระค่าบำรุงรายปีแล้ว
(2) สมาชิกวิสามัญ จะต้องชำระค่าชำระค่าบำรุงรายปีแก่สมาคมเป็นเงินจำนวนหนึ่งหมื่นห้าพันบาท (15,000.- บาท)ภายในสามสิบวัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งเป็นหนังสือให้รับเป็นสมาชิกจากเลขาธิการ ผู้สมัครเป็นสมาชิกวิสามัญ จะได้สิทธิแห่งสมาชิกภาพเมื่อได้ชำระค่าบำรุงรายปีแล้ว
(3) สมาชิกสมทบ จะต้องชำระค่าธรรมเนียมแรกเข้าแก่สมาคมเป็นเงินจำนวนสามหมื่นบาท (30,000 บาท) และชำระค่าบำรุงรายปีแก่สมาคมเป็นเงินจำนวนหนึ่งหมื่นบาท(10,000 บาท) ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งเป็นหนังสือให้รับเป็นสมาชิกจากเลขาธิการ
ผู้สมัครเป็นสมาชิกสมทบจะได้สิทธิแห่งสมาชิกภาพเมื่อได้ชำระค่าธรรมเนียมแรกเข้าและค่าบำรุงรายปีแล้ว
(4) สมาชิกกิตติมศักดิ์ ไม่ต้องชำระค่าธรรมเนียมแรกเข้าและค่าบำรุงรายปี
นอกจากค่าธรรมเนียมแรกเข้าและค่าบำรุงรายปีแล้วสมาชิกจะต้องชำระค่าบำรุงพิเศษ ซึ่งคำนวณตามปริมาณยางพาราที่สมาชิกส่งออกไปจำหน่ายในต่างประเทศในแต่ละเดือน ในอัตราที่คณะกรรมการกำหนด แต่ไม่เกินตันละสามบาท สำหรับสมาชิกสามัญ,วิสามัญและสมทบ ทั้งนี้จะต้องชำระภายในวันที่ 15 วัน หลังจากที่ได้รับแจ้ง
ข้อ 10. สมาชิกทุกประเภทจะขาดจากสมาชิกภาพเมื่อ
(1) เลิกประกอบการผลิตหรือการค้ายางพารา
(2) ลาออกโดยยื่นใบลาออกต่อคณะกรรมการ แต่ต้องชำระค่าบำรุงรายปี ค่าบำรุงพิเศษและหนี้ใด ๆ (ถ้ามี) แก่สมาคมให้เสร็จเสียก่อน
(3) ถูกคัดชื่อออกโดยเหตุต่อไปนี้
ก. ละเมิดข้อบังคับ หรือระเบียบของสมาคม
ข. ล้มละลาย มีหนี้สินล้นพ้นตัว หรือถูกชำระบัญชีเพื่อเลิกกิจการ
ค. กระทำการใด ๆ อันจะนำมาซึ่งความเสื่อมเสียแก่การผลิต และการค้ายางพารา
ง. ไม่ชำระค่าบำรุงรายปีภายในวันที่ 31 มีนาคม ของปีถัดไป และหรือไม่ชำระค่าบำรุงพิเศษเกินกว่า 12 เดือนในกรณีสมาชิกสามัญ หรือเกินกว่า 6 เดือน ในกรณีของสมาชิกวิสามัญหรือสมาชิกสมทบนับจากวันที่ได้รับแจ้งเป็นหนังสือจากเหรัญญิกและไม่มีเหตุผลประกอบอันควรที่จะได้รับการยกเว้น ทั้งนี้โดยมติของคณะกรรมการบริหารสมาคมยางพาราไทย
จ. เมื่อกระทำการอันเป็นการเสื่อมเสียแก่สมาคม และคณะกรรมการ มีมติให้ออกด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสองในสามของจำนวนกรรมการที่เข้าประชุม
ข้อ 11. ก่อนที่คณะกรรมการมีมติลงโทษสมาชิกตามข้อ 10 (3) จ ให้เลขาธิการ บอกกล่าวเป็นหนังสือไปยังสมาชิก ณ สถานที่ประกอบการของสมาชิกนั้น โดยแจ้งให้ทราบถึงข้อกล่าวหาพอสมควร พร้อมทั้งวัน เวลา และสถานที่ซึ่งกำหนดให้มีการประชุมคณะกรรมการก่อนการประชุมอย่างน้อยเจ็ดวัน ทั้งนี้สมาชิกที่ถูกกล่าวหามีสิทธิเข้าประชุมเพื่อแก้ข้อกล่าวหาต่อที่ประชุม
ข้อ 12. สมาชิกสามัญผู้ไม่ค้างค่าบำรุงรายปีและไม่ค้างค่าบำรุงพิเศษเกินกว่า 6 เดือนนับจากวันที่ได้รับแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรมีสิทธิเข้าประชุมใหญ่ และมีสิทธิออกเสียงในการเลือกตั้งคณะกรรมการ
ข้อ 13. สมาชิกวิสามัญ สมาชิกสมทบ และสมาชิกกิตติมศักดิ์มีสิทธิเข้าประชุมใหญ่ แต่ไม่มีสิทธิออกเสียงในการเลือกตั้งคณะกรรมการ
ข้อ 14. สมาชิกมีหน้าที่ ดังนี้
(1) เคารพต่อข้อบังคับ และระเบียบของสมาคมโดยเคร่งครัด
(2) รักษา และเทิดไว้ซึ่งเกียรติของสมาคม
(3) ส่งเสริมกิจการของสมาคมให้เจริญก้าวหน้าโดยทุกวิถีทาง
(4) ชำระค่าบำรุงรายปี ค่าบำรุงพิเศษ และหนี้อื่น ๆ ที่สมาชิกมีต่อสมาคม
ข้อ 15. สมาชิกสามัญ สมาชิกวิสามัญ และสมาชิกสบทบมีสิทธิตรวจสอบการดำเนินกิจการและทรัพย์สินของสมาคม โดยทำหนังสือและยื่นต่อคณะกรรมการ