|
|
|
|
การก่อตั้ง |
|
|
สมาคมยางพาราไทยเริ่มก่อตั้งเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2494 ด้วยความร่วมมือของบริษัทผู้ผลิตและผู้ค้ายางพารา โดยใช้ชื่อว่า "สมาคมพ่อค้ายางพาราแห่งประเทศไทย" เพื่อเป็นองค์กรกลางของผู้ประกอบธุรกิจการผลิตและการค้ายางพารา เป็นศูนย์กลางที่ทางราชการสามารถติดต่อและประสานความร่วมมือ รวมทั้งเป็นกลไกที่จะช่วยผลักดันให้เกิดกิจกรรมสร้างสรรค์ ทั้งในด้านการพัฒนาวิชาชีพและยกระดับมาตรฐานการดำเนินการของบริษัทสมาชิกให้อยู่ในระดับที่มีคุณภาพโดยทัดเทียมกัน
วัตถุประสงค์หลักในการริเริ่มก่อตั้งสมาคมยางพาราไทยก็เพื่อแก้ปัญหาอันเนื่องมาจากการประกอบธุรกิจที่ยังขาดกฎและข้อบังคับ ผู้ซื้อและผู้ขายมีอิสระในการประกอบธุรกิจที่สร้างความพึงพอใจแก่ตน โดยมิได้คำนึงถึงผลกระทบต่อการค้าโดยรวม ปัญหาที่ปรากฏมักเป็นปัญหาเรื่องสินค้าด้อยคุณภาพและการไม่ปฏิบัติตามสัญญา ซึ่งก่อให้เกิดการพิพาทที่ยืดเยื้อและเป็นผลเสียต่อผู้ประกอบธุรกิจ ด้วยเหตุนี้เองจึงได้มีการรวมตัวกันของผู้ประกอบธุรกิจยาง เรียกตัวเองว่า "สมาคมพ่อค้ายางพาราแห่งประเทศไทย" ก่อตั้งขึ้นเพื่อขจัดการค้าที่ไม่เป็นธรรม และเพื่อส่งเสริมสมาชิกที่ค้าขายด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ควบคู่ไปกับการร่างกฎและข้อบังคับขึ้นมาใช้
ที่ทำการของสมาคมยางพาราไทยใช้ที่ทำการหอการค้ากรุงเทพฯ มีการประชุมครั้งแรกเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2494 และสมาชิกเริ่มแรกมีเพียง 15 ราย เป็นสมาชิกสามัญและสมาชิกสมทบ
สมาคมยางพาราไทยได้เป็นสมาชิกสามัญของสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยมาเกือบ 2 ทศวรรษ และเมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2511 นายทะเบียนสมาคมการค้าประจำกรุงเทพมหานคร ได้ออกหนังสือรับรองให้สมาคมยางพาราไทยเป็นผู้ได้รับอนุญาตเป็นสมาคมการค้า ที่ทำการสมาคมยางพาราไทยตั้งอยู่ ณ บ้านเลขที่ 57 ซอยรองเมือง 5 ถนนรองเมือง ตำบลรองเมือง เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร ใช้ชื่อว่า "สมาคมพ่อค้ายางไทย" เป็นต้นมา
|
|
|
|
|
|
การพัฒนา |
|
|
ผลผลิตยางของไทยได้เพิ่มขึ้นอันเนื่องมาจากความต้องการของตลาดโลก และจากแรงกระตุ้นผ่านโครงการปลูกแทนของรัฐบาลไทย ตั้งแต่ปี 2504 ผลทางอ้อมก่อให้เกิดการสร้างโรงงานผลิตยางและบริษัทค้ายางต่าง ๆ ขึ้น เนื่องจากกลุ่มวิชาชีพเหล่านี้ต้องการติดต่อกับชาวสวนและเจ้าของสวนยางอย่างใกล้ชิด การประกอบกิจการของพวกเขาจึงได้แผ่ขยายไปยังพื้นที่ปลูกยางในภาคใต้
ดังนั้นจำนวนสมาชิกของสมาคมยางพาราไทยจึงได้เพิ่มขึ้นและปัจจุบันสมาคมยางพาราไทยมีสมาชิกทั้งสิ้น 39 บริษัท มีทั้งผู้ผลิตและผู้ค้ายาง สมาคมยางพาราไทยได้รับการรับรองโดยรัฐบาลและได้รับการพิจารณาว่าเป็นองค์กรกลางในการประสานความร่วมมือระหว่าง ภาครัฐและเอกชน
|
|
|
|
|
|
ย้ายที่ทำการลงภาคใต้ |
|
|
ด้วยหาดใหญ่ซึ่งเป็นเมืองหลักทางตอนใต้ของไทยกลายเป็นศูนย์กลางธุรกิจที่เฟื่องฟู ประกอบกับการสร้างท่าเรือน้ำลึกที่สงขลา จึงเป็นเหตุผลอันดีที่สมาคมยางพาราไทยจะย้ายลงมาทางใต้ ที่ซึ่งเป็นพื้นที่ปลูกยางหลัก มีโรงงานยางจำนวนมาก เรือสินค้าคับคั่ง และมีการประกอบธุรกิจการค้ามากมาย นอกจากนี้ ยังอยู่ชิดติดกับประเทศเพื่อนบ้าน คือ มาเลเซีย ผู้ผลิตและส่งออกยางอันดับสามของโลก ในปี 2535 สมาคมยางพาราไทยได้ย้ายไปยังเมืองหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา และตั้งสำนักงานอยู่บ้านเลขที่ 4/14 ถ.เทพสงเคราะห์
ในปี พ.ศ. 2536 สมาชิกสมาคมยางพาราไทยเห็นพ้องที่จะเปลี่ยนชื่อเป็น "สมาคมยางพาราไทย" ในปีต่อมา ได้มีการย้ายสำนักงานไปยังสถานที่ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่เหมาะสมกว่า โดยย้ายไปอยู่บ้านเลขที่ 45, 47 ถนนโชติวิทยะกุล 3 อำเภอหาดใหญ่ จวบจนทุกวันนี้
|
|
|
|
|
|
กิจกรรม |
|
|
กิจกรรมสมาคมยางพาราไทยแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ดังนี้
1. การให้บริการแก่สมาชิก ได้แก่
- การให้ข้อมูลข่าวสารด้านยางพาราแก่สมาชิก สมาคมยางพาราไทยเป็นศูนย์กลางข้อมูลธุรกิจยางสำหรับสมาชิก โดยสมาคมฯ ได้รับข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ และส่งข้อมูลเหล่านี้ให้สมาชิกรับทราบในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งจดหมายอิเลคทรอนิคส์ วารสารข่าวรายเดือนและเว็บไซต์สมาคมยางพาราไทย
- การให้ความช่วยเหลือสมาชิกในการแสวงหาความรู้และประสบการณ์ในด้านเทคนิคกระบวนการผลิตยาง และธุรกิจยาง โดยแลกเปลี่ยนความคิด การจัดหาข้อมูล จัดทัศนศึกษา เชิญสมาชิกเข้าร่วมประชุม จัดสัมมนา และจัดฝึกอบรมทั้งในและต่างประเทศในโอกาสที่เหมาะสม
- การส่งเสริมด้านการตลาดยางแก่สมาชิก ได้แก่ การจัดงานเลี้ยงประจำปีสมาคมฯ การจัดคณะเดินทางไปยังประเทศผู้ใช้ยางต่างประเทศ และการจัดคณะสมาชิกเพื่อเข้าร่วมงานเลี้ยงประจำปีขององค์กรยางต่าง ๆ ในต่างประเทศเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ด้านธุรกิจยาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มประเทศสมาชิกสภาธุรกิจยางอาเซียน เช่น มาเลเซีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม และกัมพูชา
- การเป็นตัวกลางในการไกล่เกลี่ยระหว่างสมาชิกและเป็นตัวกลางในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างสมาชิกด้วยกันและผู้ที่มิได้เป็นสมาชิก เมื่อเกิดกรณีพิพาทขึ้นไม่ว่าในประเทศหรือต่างประเทศ
ในแต่ละปี สมาคมยางพาราไทยจะจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ให้กับองค์กรยางจากต่างประเทศที่เดินทางมาเยี่ยมเยียนดูงาน อุตสาหกรรมและธุรกิจยางในประเทศไทย สมาคมยางพาราไทยร่วมกับสมาคมการค้ายางญี่ปุ่นในการกำหนดข้อตกลงที่จะมี การดำเนินธุรกิจยางร่วมกันเฉพาะในกลุ่มที่เป็นสมาชิกสมาคมฯ เพื่อประกันความมั่นใจในความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่ราบรื่น
2. การให้ความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษา การวิจัยและพัฒนา
การให้ความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ ผู้แทนสมาคมฯได้เข้าร่วมเป็นคณะกรรมการสำคัญ ได้แก่ คณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ คณะกรรมการควบคุมยาง คณะกรรมการอนุญาโตตุลาการยางพาราไทย คณะกรรมการวิชาการพิจารณามาตรฐานสินค้าเกษตรเรื่องยางพาราและผลิตภัณฑ์ยางของสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ คณะกรรมการวิชาการรายสาขาเรื่องยางพาราและผลิตภัณฑ์ยางของสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม และคณะอนุกรรมการกำหนดมาตรฐานควบคุมค่าความเข้มกลิ่นจากโรงงานยางพารา เป็นต้น
การให้ความร่วมมือกับหน่วยงานภาคเอกชน ผู้แทนสมาคมฯ ได้เข้าร่วมเป็นคณะกรรมการกลุ่มพืชเศรษฐกิจหลักของหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย คณะกรรมการคลัสเตอร์ยางและไม้ยางพาราของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และคณะกรรมการ Trade Environment ของสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย
การให้ความร่วมมือกับสถาบันการศึกษา การวิจัยและพัฒนา ผู้แทนสมาคมฯ ได้เข้าร่วมเป็นคณะกรรมการเครือข่ายวิจัยภูมิภาคภาคใต้ของสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ และผู้ทรงคุณวุฒิของสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ สำนักงานกองทุนสนับสนุนงานวิจัย และสถาบันการศึกษาต่างๆ
3. การให้ความร่วมมือกับองค์การยางระหว่างประเทศ ได้แก่
- การเป็นองค์กรยางระหว่างประเทศองค์กรหนึ่งที่ให้การรับรอง "สมุดปกเขียว"(Green Book) ในปี พ.ศ. 2511 ซึ่งสมุดปกเขียว ได้มีการตีพิมพ์ขึ้นภายใต้มติที่ประชุม IRQPC ครั้งที่ 4 ณ ประเทศเบลเยี่ยม
- การเป็นกรรมการและสมาชิกสมาคมยางระหว่างประเทศ (International Rubber Association)
- การเป็นกรรมการและสมาชิกสภาธุรกิจยางอาเซียน(ASEAN Rubber Business Council)
- การเป็นกรรมการสภาไตรภาคียางระหว่างประเทศ(International Tripartite Rubber Council)
- การเป็นกรรมการบริหารบริษัท ร่วมทุนยางพาราระหว่างประเทศ จำกัด (International Rubber Consortium Limited (IRCo)).
|
|
|
|
|
|
สถานะปัจจุบันของสมาคมยางพาราไทย |
|
|
ตลอดช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากการย้ายที่ทำการมาที่หาดใหญ่ ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางของอุตสาหกรรมยางไทย และการประกอบธุรกิจการค้า สมาคมยางพาราไทยจึงได้ขยายกิจกรรมออกไปเรื่อย ๆ แนวความคิดหลักยังยึดถือนโยบาย ในการส่งเสริมธุรกิจยางของสมาชิกและรักษาคุณภาพยางไทยให้อยู่ในระดับสากล |
|
|
|
|
|
นโยบายของสมาคมยางพาราไทย |
|
|
1. บริหารสมาคมด้วยความโปร่งใส โดยใช้หลักธรรมาภิบาล
2. ด้านสมาชิก ดำเนินงานโดยมีเป้าหมาย เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่สมาชิก รวมทั้งปกป้อง และรักษาผลประโยชน์ของสมาชิก
3. สร้างการมีส่วนร่วมของสมาชิกและสร้างความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดระหว่างสมาชิก และสมาคมฯ เพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรมยางไทยอย่างยั่งยืน
4. ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆของภาครัฐ และเอกชนทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. ด้านผู้ผลิตยาง สมาคมให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่กับประเทศผู้ผลิตยางทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศในภูมิภาคเอเชีย
6. ด้านผู้ใช้ยาง สมาคมเป็นสื่อกลางในการประสานความร่วมมือระหว่างผู้ผลิตและผู้ใช้ยาง เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในด้านธุรกิจยาง และเพื่อให้ผู้ผลิตและผู้ใช้ยางได้รับประโยชน์ร่วมกัน
|
|
|
|
|
|
รายนามนายกสมาคมยางพาราไทย นับแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน |
|
|
|
|
|
- พ.ศ. 2494 - 2497 นาย ตัน ใจ เส็ง
- พ.ศ. 2497 - 2502 นาย เอช เอฟ ลัง เฟล
- พ.ศ. 2502 - 2504 นาย เอส ลังกิล เย็นเซ็น
- พ.ศ. 2504 - 2505 นาย ไว โอ จอง
- พ.ศ. 2505 - 2506 นาย ตันไว คี
- พ.ศ. 2506 - 2509 นาย ตัน ไว คี
- พ.ศ. 2509 - 2513 นาย บุญทอง สันติกาญจน์
- พ.ศ. 2513 - 2516 นาย อุ่นจอง แซ่เอียว
- พ.ศ. 2516 - 2518 นาย วิจิตร อุปัติศฤงค์
- พ.ศ. 2518 - 2520 นายสมาน โอภาสวงศ์
- พ.ศ. 2520 - 2522 นายประทีป วิบูลย์
- พ.ศ. 2522 - 2524 นายสมบูรณ์ โสพร
- พ.ศ. 2524 - 2528 นาย วิจิตร อุปัติศฤงต์
- พ.ศ. 2528 - 2529 นายแสง อุดมจารุมณี
- พ.ศ. 2529 - 2533 นาย วิจิตร อุปัติศฤงต์
- พ.ศ. 2533 - 2536 นายแสง อุดมจารุมณี
- พ.ศ. 2536 - 2539 นาย อโนทัย งานทวี
- พ.ศ. 2539 - 2541 ดร. ไวยวุฒิ สินเจริญกุล
- พ.ศ. 2541 - 2545 นาย ชูสิทธิ์ โอภาสวงศ์
- พ.ศ. 2545 - 2547 ทพ. พงษ์ศักดิ์ เกิดวงศ์บัณฑิต
- พ.ศ. 2547 - 2548 นายแสง อุดมจารุมณี
- พ.ศ. 2548 - 2550 นายหลักชัย กิตติพล
- พ.ศ. 2550 – 2554 ดร.หลักชัย กิตติพล
- พ.ศ. 2554 – 2555 ทพ.พงษ์ศักดิ์ เกิดวงศ์บัณฑิต
- พ.ค. 2555 - ต.ค. 2555 นายประภาส เอื้อนนทัช
- ต.ค. 2555 - ปัจจุบัน นายไชยยศ สินเจริญกุล
|
|
|
|
|