ปัจจุบันทวีปแอฟริกาเป็นตลาดใหม่ที่ได้รับความสนใจอย่างมากจากผู้ส่งออกและนักลงทุนต่างชาติ เนื่องด้วยเศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัว โดยเฉพาะตลาดหลัก อาทิ สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป จีน และญี่ปุ่น ทำให้ผู้ส่งออกเริ่มหันไปหาตลาดใหม่อย่างทวีปแอฟริกา ซึ่งมีศักยภาพและเป็นตลาดขนาดใหญ่อันดับสองรองจากทวีปเอเชีย ทวีปแอฟริกาเป็นดินแดนที่มีอาณาเขตติดต่อกับทวีปยุโรปและทวีปเอเชีย ด้วยพื้นที่ประมาณ 1.9 หมื่นล้านไร่ ซึ่งแบ่งเป็นพื้นที่เพาะปลูกทางการเกษตรอยู่ที่ 7 พันล้านไร่ ในพื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับการเพาะปลูกถึงประมาณ 60% ของพื้นที่ทั้งหมดของทวีปแอฟริกาหรือราว 1.1 หมื่นล้านไร่ ส่วนพื้นที่ที่เหลือประกอบไปด้วยพื้นที่ทะเลทรายที่มีความแห้งแล้งอีกประมาณ 40% หรือราว 0.8 ล้านไร่ โดยมีประชากรกว่า 1.3 พันล้านคน นับเป็น 16% ของประชากรโลก อีกทั้งยังอุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาตินานาชนิด แต่แอฟริกาเป็นทวีปที่เติบโตช้ากว่าทวีปอื่นๆ โดย African Development Bank ได้ประมาณการเติบโตในปี 2567 ลดลงเหลือร้อยละ 3.8 จากร้อยละ 4.3 เนื่องจากหลายปัจจัย เช่น ผลกระทบจากโควิดที่ยังส่งผลกระทบอยู่ สถานการณ์รัสเซียและยูเครนที่ยืดเยื้อ อัตราเงินเฟ้อในระดับสูง ราคาอาหารและเชื้อเพลิงสูง และปัจจัยอื่นๆ ภายในประเทศ เช่น ภาวะสงคราม ความไม่มั่นคงทางการเมือง ภาระหนี้สาธารณะ คอร์รัปชั่น ความยากจน การขาดแคลนพลังงาน(ไฟฟ้า) และค่าเงินท้องถิ่นอ่อนค่า
แอฟริกามีศักยภาพเป็นตลาดสินค้าเกษตรและอาหารโลก คาดว่าตลาดสินค้าเกษตรและอาหารของแอฟริกาจะมีมูลค่าถึง 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯในปี 2573 จากราว 280 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2566 โดยมีปัจจัยสนับสนุน ได้แก่ 1)แอฟริกาตื่นตัวในการพัฒนาเมล็ดพันธุ์พืชด้วยเทคโนโลยีชีวภาพและพันธุศาสตร์ 2)ผลผลิตต่อไร่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากการเข้าถึงแหล่งผลิตปุ๋ยที่มากขึ้น และ 3)แอฟริกาสามารถขยายพื้นที่เพาะปลูกทางการเกษตรได้อีกมากจากภูมิศาสตร์ที่ยังมีพื้นที่ว่างที่มีศักยภาพในการทำการเกษตรอีกจำนวนมาก
สถานการณ์ยางพาราในโกตดิวัวร์ ประเทศหนึ่งในทวีปแอฟริกาซึ่งเป็นผู้ผลิตยางรายใหม่ที่น่าจับตามองและมีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยปี 2566 ทวีปแอฟริกาครองสัดส่วนการผลิตถึงร้อยละ 14 โดยแหล่งผลิตสำคัญคือ ประเทศโกตดิวัวร์ กาน่า และไลบีเรีย ซึ่งโกตดิวัวร์ผลิตยาง 1.55 ล้านตัน เป็นอันดับ 3 ของโลก และส่งออก 1.64 ล้านตัน เป็นอันดับ 4 ของโลก (แหล่งที่มา IRSG) ซึ่งโกตดิวัวร์มีความพร้อมในการส่งออกยาง EUDR เป็นอันดับ2 รองจากไทย และมีโรงงานยางล้อหลายแห่งตั้งอยู่ที่ทวีปแอฟริกา นับเป็นโอกาสที่ดีแก่ผู้ประกอบการไทยในการหาตลาดใหม่ซึ่งมีศักยภาพ อย่างไรก็ตามทวีปแอฟริกายังมีปัญหาทางด้านการคมนาคมขนส่งมากกว่าทวีปอื่น ๆ เนื่องจากหลายประเทศขาดเงินทุนที่จะนำมาพัฒนาเส้นทางคมนาคมขนส่งให้ทันสมัย ประกอบกับทวีปแอฟริกามีลักษณะภูมิประเทศและสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ที่เป็นอุปสรรคต่อการคมนาคมขนส่ง ผู้ประกอบการไทยที่สนใจจะขยายการส่งออกหรือเข้าไปลงทุนในทวีปแอฟริกาควรพิจารณาอย่างรอบคอบโดยเฉพาะอย่างยิ่งควรประเมินสถานะทางการเงินของคู่ค้า/ธนาคารผู้ซื้อ กำหนดเทอมการชำระเงินที่มีความเสี่ยงต่ำ พร้อมทั้งป้องกันความเสี่ยงทางการค้าและอัตราแลกเปลี่ยนอย่างรัดกุม
ตามข้อมูลที่ได้เรียนมา ประมวลได้ว่าทวีปแอฟริกามีศักยภาพสูงในการค้าและการลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศโกตดิวัวร์เป็นตลาดยางธรรมชาติและอุตสาหกรรมยางที่สำคัญ และมีแนวโน้มของความสำคัญสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคต ซึ่งภาครัฐและเอกชน รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ควรให้ความสำคัญในการส่งเสริมการค้าการลงทุน และความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศเพื่อทดแทนตลาดหลักโดยเร่งด่วนต่อไป
นายวีรสิทธิ์ สินเจริญกุล
นายกสมาคมยางพาราไทย